อดีตแกนนำนปช.“สมหวัง อัสราษี”เตรียมลุยภาคอีสานเปิดเวทีขอเสียงคนเสื้อแดงหันมาสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติดัน“ประยุทธ์”นั่งนายกฯอีกสมัย ย้ำเดินออกจากนปช.ด้วยความเจ็บปวดและน้ำตา แต่ไม่เคยทรยศหรือเนรคุณใคร

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายสมหวัง อัสราษี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อดีตแกนนำนปช. เปิดเผยว่า ตนมีกำหนดการลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยกับว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสานของพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เพื่อไปช่วยพรรคหาเสียงโน้มน้าวใจให้คนเสื้อแดงที่เคยอยู่ร่วมกันมาให้หันมาสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อมาสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย รวมถึงจะไปชี้แจงนโยบายของพรรคให้ชาวบ้านได้เข้าใจ และบางเวทีจะไปร่วมกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ

นายสมหวัง กล่าวว่า ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจสมัยเป็นผบ.ทบ.ตนก็เฝ้าดูพลเอกประยุทธ์มาตลอดว่าท่านทําอะไรบ้างได้ติดตามมาตลอด จนกระทั่งได้เข้ามาสู่ระบบการเลือกตั้งถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามพูดโจมตีเวลาหาเสียงตลอดกล่าวหาพลเอกประยุทธ์เป็นเผด็จการ ตนก็อยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด เวลานี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งในสภา เวลานี้พลเอกประยุทธ์ก็ลงเลือกตั้งในระบบพรรคการเมืองทำไมยังมาพูดโจมตีอีกว่าเป็นเผด็จการ นี้ ถ้าเป็นเผด็จการจะมีการเลือกตั้งไหมดังนั้นเลิกพูดได้แล้ว

“ก่อนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เข้ามาทำงาน ผมก็อยู่ในกระบวนการข้าราชการการเมือง เคยอยู่กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาก่อน เป็นทั้งเลขานุการรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรี เห็นหลายสิ่งหลายหลายที่มันไม่ใช่ แต่ผมตัวเท่ามดจะไปพูดอะไรได้ ทําอะไรไม่ได้ แต่ความรู้สึกของเรามันไม่ใช่ ผมบอกเลยว่านั่นเป็นเงินภาษีประชาชน คุณควรจะเอาเงินภาษีประชาชนคืนให้กับประชาชน ไม่ใช่เอามาทำอะไรที่มันไม่ใช่ พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ใช่พ่อค้า ไม่ใช่เถ้าแก่เขาจะไม่คิดถึงกําไรขาดทุน ต่างกับพวกคุณ เถ้าแก่ชัดๆ นักธุรกิจชัดๆ ทําอะไรก็คิดแต่ผลกําไร ต้องเอาข้อเท็จจริงมาคุยกันเอาสิ่งที่เห็นมาพูดกัน ว่าอะไรเป็นอะไร ประเทศชาติทุกวันนี้ความขัดแย้งลดลงไหม ต้องยอมรับ ไอ้ที่จะมาเย้วๆ ไม่มีแล้วเพราะทุกคนเข้าใจ แต่มีพวกบางคนที่เข้าเส้นเลือดไม่เปลี่ยนความคิด คิดด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ผมไม่ใช่อย่างงั้น ที่ผมมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติผมถือสุภาษิตว่า เจ็บแล้วจําคือคน ถ้าเจ็บแล้วทนคือควาย ผมไม่ใช่ควาย ผมไม่ให้ใครเอาเชือกมาร้อยจมูกเอากระดิ่งมาแขวนคอ”นายสมหวังกล่าว

อดีตแกนนำนปช. กล่าวด้วยว่า สมัยตนอยู่กับนปช.ตนไม่เคยขอเงินใครแม้แต่บาทเดียว ดังนั้นอย่ามาพูดว่าทรยศ ชีวิตนี้ไม่เคยทรยศใคร อย่าบอกว่าเนรคุณ ชีวิตนี้ตนไม่เคยเนรคุณใคร เมื่อไม่เคยมาช่วยเหลืออะไรแล้วเอาบุญคุณมาจากไหนจะเนรคุณได้อย่างไรเพราะสิ่งที่ทำทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ตนไม่เคยมาขอเงินไม่ใช่สัมภเวสีไม่ใช่เหลือบไม่ใช่ไรไม่ใช่หมัด ที่จะไปขอเงินใคร ตนเป็นคนมีต้นทุน และต้นทุนสูงด้วย ดังนั้นถ้าเคารพการตัดสินใจแต่ละฝ่าย ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่แต่ถ้าไม่เคารพการตัดสินใจก็ไม่เป็นไร และไม่ได้มองว่าจะเสียเพื่อน ถ้าเพื่อนที่ดีมีสมองเขาคิดได้ หากเพื่อนไม่ดีเข้าเส้นเลือดอะไรก็เยียวยาไม่ได้

นายสมหวัง กล่าวว่า สำหรับแกนนำนปช.บางคนผีไม่ต้องเผาเงาไม่เหยียบ ต้องพูดอย่างนี้ ไม่คิดจะคบด้วยอีกต่อไป ถ้าเจอกันอาจจะทักทาย แต่จะไม่สังคายนาด้วย ตนเดินเอามาจาก นปช.ด้วยความเจ็บปวดและน้ำตาตอนเดินออกมาไม่เคยหันหลังเหยียบเข้าไปอีก หลายคนโทรมาตามก็ไม่เคยรับสาย ตั้งใจจะไม่ยุ่งการเมืองแล้ว แต่ที่ต้องมาเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติเพราะมีอุดมการณ์เกี่ยวกับ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ชัดเจนที่สุด สิ่งนี้อยู่ในหัวใจ ทุกวันนี้มีความภูมิใจได้เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ตนไม่ต้องการตําแหน่งทางการเมือง แค่ให้ได้ทํางานให้ประเทศชาติกับประชาชนก็พอแล้ว ส่วนความรู้สึกตั้งแต่มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติมันต่างกับที่เดิมราวฟ้ากับเหวเลย พรรคนี้ไม่มีอะไรแอบแฝงแถมให้เกียรติ

“ จุดประสงค์หลักผมอยากให้พรรครวมไทยสร้างชาติชนะเลือกตั้ง “ลุงตู่”เป็นนายกต่อไป ดังนั้นการลงพื้นที่ภาคอีสานจะไปหาเพื่อนเก่าที่เคยเป็นคนเสื้อแดงด้วยกันมา ไปอธิบายให้คนเสื้อแดงได้เข้าใจอะไรเป็นอะไร ในฐานะตัวจริงเสียงจริงรู้หมดทุกเรื่อง บางพรรคเวลาไปหาเสียงบอกไม่ทิ้งคนเสื้อแต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ เฮียสมหวังจะไปอธิบายทำไมจึงเดินออกจาก นปช.แล้วไม่เหลียวหลังกลับไป สมัยอยู่นปช.ทุกคนรู้หมด ผมไม่เคยทิ้งแม้แต่วันเดียว แล้วทําไมต้องเดินออกมาจากนปช.”นายสมหวังกล่าว