แถลงสรุปผลโหวตเสียงประชาชน ครั้งที่ 2 พบว่า 93.17% โหวตไม่ควรให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี เกิน 8 ปี จากจำนวนการโหวตทั้งสิ้น 374,063 ครั้ง

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ภายหลังเครือข่ายนักวิชาการ เสียงประชาชน 8 มหาวิทยาลัย ร่วมกับทีวีดิจิทัลและสื่อออนไลน์ 8 สื่อ จัดให้มีการโหวตเสียงประชาชน ครั้งที่ 2 เรื่อง 8 ปีนายกรัฐมนตรี ทางโทรศัพท์มือถือ โดยมีกติกาคือ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หรือ 1 เลขหมาย โหวตได้ 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 20-21 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดการโหวตได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยมีผลการแถลงดังนี้

จำนวนการโหวตทั้งหมด 374,063 โหวต

โหวตในประเทศไทย 369,484 โหวต
โหวตจากต่างประเทศ 4,579 โหวต
ทั้งนี้ มีการโหวตที่ไม่สมบูรณ์อีก 1,438 ครั้ง

จากคำถามที่ถามประชาชนว่า การวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 หรือไม่ เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในฐานะประชาชน ท่านเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปีหรือไม่ ผลการโหวตออกมาดังนี้

348,511 โหวต หรือคิดเป็น 93.17% ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่ควร” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี
25,552 โหวต หรือคิดเป็น 6.83% ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ “ควร” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี

สำหรับการโหวตนี้ไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย และไม่สามารถสรุปได้ว่าประชาชนทั้งประเทศ 93.17% เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี เพราะนี่คือผลการโหวตของประชาชนที่มาโหวตจากโทรศัพท์มือถือ 374,063 หมายเลขเท่านั้น แต่สามารถสรุปได้ว่า จากการเปิดให้ประชาชนโหวต ฝ่ายที่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี และฝ่ายที่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี มีโอกาสในการโหวตอย่างเสมอกัน ผลการโหวตคือ 93.17% เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้เกินกว่าวันที่ 24 สิงหาคม 2565 หรือไม่ เป็นอำนาจวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเจตนารมณ์ของการโหวตเสียงประชาชน คือการเปิดให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้แสดงออกซึ่งความคิดเห็น โดยใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีความสะดวก อยู่ที่ใดก็โหวตได้ ไม่ต้องเดินทาง และไม่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นภาระ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการโหวตเสียงประชาชน ครั้งที่ 2 จะมีผู้โหวตน้อยกว่าครั้งแรก เนื่องจากคำถามมีความซับซ้อนกว่า ทั้งยังดำเนินการในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่จำนวนการโหวต 374,063 ครั้ง ถือว่าเป็นจำนวนการเข้าร่วมทางออนไลน์ที่มากที่สุดอีกครั้ง จะเป็นรองก็เพียงการโหวตเสียงประชาชน ครั้งแรก ที่มีผู้โหวต 524,086 โหวตเท่านั้น

พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่มาร่วมโหวต และขอบคุณสื่อต่างๆ ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ ทำให้เสียงประชาชนดังขึ้นมาในประเทศไทย เพื่อจะนำไปสู่การฟังเสียงประชาชนให้มากขึ้น และพัฒนาไปสู่การมีประชาธิปไตยโดยตรงให้มากขึ้นต่อไปในอนาคต.