จากกรณี MR.WANG NANFENG อายุ 33 ปี ผู้เสียหายชาวจีนถูกคนร้ายจับยัดใส่กล่องพลาสติกลงจากห้องพัก อาคารย่าน ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.แล้วนำไปกักขังที่รีสอร์ท ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเรียกค่าไถ่จากเพื่อนและญาติๆ เป็นเงิน 3.93 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ได้แก่ นายณัฐภัทร หรือกบ อายุ 27 ปี, นายณัฐพงศ์ หรือจูน อายุ 24 ปี,น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร อายุ 24 ปี อดีตผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์จังหวัดสุพรรณบุรี ปี 2020,นายศุภพล หรือบอส หรือกาย อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย,น.ส.สริตา อายุ 28 ปี และ นายธนายุทธ หรือโจ อายุ 30 ปี

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 18 เม.ย.ที่ สน.ลุมพินี เพื่อนๆ น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร พร้อมครอบครัวและทนายความ เดินทางนำอาหารเตรียมเข้าเยี่ยม โดยครอบครัวน้ำเพชร ปฏิเสธไม่ขอให้ข้อมูลใดกับผู้สื่อข่าว ส่วน น.ส.เอ นามสมมติ เพื่อนของน้ำเพชร เปิดเผยว่า ตนเองไม่เชื่อว่า น้ำเพชรจะทำเรื่องดังกล่าว และในวันเกิดเหตุ น้ำเพชรอยู่กับตน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับคอนโด อีกทั้งช่วงเวลาที่นายหวัง ผู้เสียหาย หายตัวไป น้ำเพชรก็เป็นคนช่วยตามหา และเดินทางเข้าแจ้งความคนหายที่ สน.ลุมพินี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง

น.ส.เอ เล่าอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00น.วันที่ 14 เม.ย.น้ำเพชร ไปเที่ยวกับรุ่นพี่ที่สยามพารากอน กระทั่งเวลา 01.50น.ของวันที่ 15 เม.ย.น้ำเพชรโทรศัพท์หาตนมาเล่าว่า ยังไม่ได้นอนเพราะเพื่อนๆ ของนายหวัง บอกตนว่าติดต่อกับนายหวังไม่ได้ ทั้งที่ช่วงเย็นน้ำเพชรยังคุยกับนายหวัง โดยบอกว่าตัวเองจะไปเที่ยวพัทยา แต่น้ำเพชรสงสัยว่านายหวังอาจจะแอบไปเที่ยวกับสาวๆ จึงชักชวนตนเองไปที่คอนโด เพื่อดูกล้องวงจรปิด แต่ทางนิติบุคคลของคอนโด ปฏิเสธโดยระบุว่าก่อนหน้านี้มีคนจีนมาขอดูกล้องไปแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นเวลาประมาณ 02.30น.นายหวัง โทรมาหาน้ำเพชรอีกครั้ง โดยบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอยู่พัทยากับเพื่อนแล้ว ตนจึงแยกย้ายกับน้ำเพชรกลับไปพักผ่อน ก่อนที่ในช่วงเช้าจะไม่สามารถติดต่อนายหวังได้อีกจึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี

น.ส.เอ เล่าอีกว่า สำหรับนายกาย ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นกิ๊กของ น.ส.น้ำเพชร นั้น ตามจริงแล้วชื่อบอส ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำเพชร ได้คบหากับนายหวังมาประมาณ 1 ปี โดยรู้จักกันผ่านการทำงาน ไม่ใช่การเกาะผู้ชายกินอย่างที่เข้าใจกัน เพราะน้ำเพชรไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน จนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว น้ำเพชรได้เลิกรากับนายหวัง และเป็นจังหวะเดียวกันที่นายบอส เข้าหาพอดี จึงคบหากับนายบอส

ต่อมาเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 สัปดาห์ นายหวังได้ตามมาง้อและน้ำเพชรก็กลับมาคบกัน ซึ่งตนเชื่อว่านายบอสเกิดความหึงหวง และคาดว่านายบอสจะมีปัญหาเรื่องเงิน จึงอาจวางแผนก่อเหตุดังกล่าว ส่วนกรณีที่นายบอส ใช้รถยนต์และคีย์การ์ดของน้ำเพชรก่อเหตุนั้น ปกตินายบอส มักจะใช้รถยนต์ของน้ำเพชรเดินทางไปไหนมาไหนโดยตลอด และคีย์การ์ดห้องก็อยู่ในรถดังกล่าว ซึ่งระหว่างที่น้ำเพชรคนหานายบอส ตนก็ตักเตือนมาตลอด เพราะไม่ชอบพฤติกรรมส่วนตัวของนายบอส แต่ตนเชื่อว่าน้ำเพชรไม่ก่อเรื่องนี้เองแน่นอน เพราะเป็นคนรักครอบครัว ช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่างเชื่อว่าน้ำเพชรไม่รู้เรื่องนี้ อยากให้สักคม อย่าเพิ่งตัดสินเพื่อนจากคำให้การของนายบอส เท่านั้น