หากนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเมืองร้อยเอ็ดต้องแวะมาชิม ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น หมูตุ๋น ลวกจิ้มเนื้อตุ๋น ของ “ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือคมแฝก”ตั้งอยู่ริมถนนแจ้งสนิท สายมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด ขอบอกว่ารสเด็ดจริงด้วยเนื้อตุ๋น เอ็นตุ๋น หมูตุ๋น ราดด้วยน้ำซุปสูตรพิเศษของทางร้าน แถมบุฟเฟต์ผักสดที่ทางร้านปลูกเอง น้ำดื่มฟรี นั่งกินแบบห้อยขา มีสปริงเกอร์ปล่อยละอองน้ำช่วยคลายร้อน หรือจะนั่งทานในห้องแอร์ก็เลือกได้ตามสบาย

คุณ วัทธิกร ชำนิกำจร เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือคมแฝก บอกว่า ร้านแห่งนี้เปิดที่ริมถนนแจ้งสนิท สายมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด (ขาเข้าร้อยเอ็ด) บ้านดงสวอง ตำบลสีแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด บรรยากาศภายในร้านได้ตกแต่งตามสไตล์ลอฟต์ มีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้งแบบห้อยขา และแบบเก้าอี้ไม้ ปลอดโปร่งโล่งสบาย กลางท้องทุ่งนาที่กำลังเขียวขจี มีสปริงเกอร์ฉีดละอองน้ำเย็นทั่วร้าน หรือจะเลือกนั่งที่ห้องแอร์ก็ได้

เมนูของร้านที่ลูกค้าเข้ามาต้องสั่งเลย นั่นคือ ก่วยเตี๋ยวเรือเนื้อตุ๋น เอ็นตุ๋น หมูตุ๋น ราดด้วยน้ำซุปสูตรพิเศษของทางร้าน ที่มีส่วนผสมของน้ำกระทิคั้นสด หริกจินดาแดงตากแห้งแล้วนำมาคั่วสดแบบวันต่อวัน เนื้อนุ่มละลายในปากได้เลย น้ำซุปก็ใช้เลือดวัวสด ตีในน้ำซุปร้อนๆ หอมกรุ่นเลยทีเดียว เมนูลวกจิ้ม เกาเหลา ก็เลือกได้ทั้งหมูตุ๋น หมูสด เนื้อตุ๋น เนื้อสด และลูกชิ้นเนื้อ สไบนาง ราคา 60 บาท เมนูก๋วยเตี๋ยวก็มีให้เลือก เนื้อตุ๋น เนื้อสด หมูตุ๋น หมูสด เส้นก็มีให้เลือกทั้งบะหมี่ เส้นหมี่ขาว เส้นกลาง เริ่มต้นที่ถ้วยละ 50 บาท ชอบเผ็ดให้สั่งรสเจ็บ ถ้าไม่เผ็ดก็สั่งรสใจเสาะ แถมบุฟเฟต์ผักสดที่ทางร้านปลูกเองแบบปลอดสารพิษ มีทั้งใบโหระพา ผักสลัด ถั่วงอก พริกสดเผา กินฟรีแบบไม่อั้น

เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือคมแฝก บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการในโรงเรียน แต่พอทำไปได้สักพักก็รู้สึกว่าไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากจะทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้ไปเรียนเอาสูตรก๋วยเตี๋ยวกับญาติที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ส่วนชื่อคมแฝกก็มาจากร้านของญาติที่เปิดสาขาแรกที่ อ.พล จ.ขอนแก่น เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่องคมแฝก จึงนำมาตั้งเป็นชื่อร้าน

ทางร้านได้เปิดมาได้ประมาณ 1 ปี 6 เดือนแล้ว เริ่มแรกก็มีเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่ก็เริ่มพัฒนาเมนูให้แปลกใหม่ มีลวกจิ้ม และมีผักปลอดสารพิษให้ทานแบบไม่อั้น โดยที่ร้านจะเน้นที่วัตถุดิบสดใหม่ น้ำซุปจะตั้งหม้อตุ๋นตั้งแต่เช้ามืด อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงด้วยถ่าน เพื่อความหอมของน้ำซุป แยกน้ำซุปหมูและเนื้อคนละหม้อ ผสมกับเลือดวัวที่ตีลงในน้ำซุป แบบถ้วยต่อถ้วย ถ้าหากลูกค้าไม่ชอบรสจัดก็สามารถซดแบบไม่ต้องปรุง