ปทุมธานี-ชุมชนริมน้ำสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอำเภอสามโคกและอำเภอเมืองปทุมฯอ่วมน้ำท่วมหนักทุกพื้นที่ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ขยายวงกว้างมากขึ้น ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-100เซนติเมตรหลังเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้กระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาพื้นที่นอกคันกั้นอำเภอสามโคกและอำเภอเมืองปทุมธานีจังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะในชุมชนวัดศาลาแดงเหนือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก หมู่ 2 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับ ต.เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเท่าปี 2553

น.ส.ทรรศนพร ใจชอบ อายุ 31 ปี ชาวไทยเชื้อสายมอญ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองอาศัยอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ ก็เจอปัญหาน้ำท่วมมาตลอดมากบ้างน้อยบ้างของฤดูกาลน้ำในแต่ละปี ในปี 54 น้ำท่วมหนักต้องหนีไปอยู่ในที่สูงเพราะบ้านที่อาศัยไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ หลังจากนั้นปีถัดมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็ไม่เคยท่วมอีกเลยหรือมีมากเท่าปีนี้ จะเห็นว่าน้ำปีนี้เพิ่มระดับขึ้นอยู่ตลอด ประกอบกับมวลน้ำเหนือยังมาไม่เต็มที่ ปีนี้น้ำมากกว่าปีที่แล้ว ผลกระทบตรงนี้มีแน่นอนกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริม 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งทุกคนก็ต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ให้ได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือพายในการเดินทางเข้า-ออกชุมชน ในส่วนของหน่วยงานของรัฐนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ อบต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานีลงมาสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

ปัจจุบัน ชุมชนวัดศาลาแดงเหนือ มีบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมแล้วประมาณเกือบร้อยหลังคาเรือน และมีแนวโน้มขยายวงกว้างมากขึ้น จากการระบายน้ำทะลุ 3,154 ลบ.ม./วิ ของเขื่อนเจ้าพระยา

ขณะที่ชุมชนหน้าวัดบางหลวง ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมืองปทุมธานี พบว่าระดับน้ำยังขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง จนถึงสะพานไม้ทางเดินเท้าที่สูงกว่า 1.50 เมตรและที่วัดวัดพลับสุทธาวาส ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานีซึ่งเป็นพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มการระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ทะลักเข้าท่วมวัดและบ้านเรือนประชาชน