พ่อ-ย่าร้อง ทนายรณณรงค์ ลูกสาว 3 ขวบ ถูกทำร้ายโคม่า ช็อกซ้ำ ลูกชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิตปริศนา เผย เด็กอยู่กับแม่-พ่อเลี้ยง หลังเกิดเหตุหายตัว
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายณัฐพล ทองดวง อายุ 29 ปี พร้อมด้วย นางอนันต์ มาเจริญศรี อายุ 64 ปี มารดา เดินทางเข้าร้องเรียนกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อปรึกษาแนวทางและดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดกรณีที่ น้องเจ้าขา ลูกสาว อายุ 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส และอาจจะพิการติดเตียงตลอดชีวิต
นายณัฐพล กล่าวว่า ตนได้แต่งงานอยู่กินกับแม่ของเด็กมากว่า 3 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาววัย 3 ขวบ กับลูกชายวัย 2 ขวบ จนกระทั่งมาหย่าร้างกันเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2565 โดยแม่เด็กได้รับลูกทั้ง 2 คนไปเลี้ยงดูและอยู่กับสามีใหม่ ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากหย่ากันแม่ของเด็กได้โทรมาทวงค่าเลี้ยงดูลูก ตอนนั้นตนตกงานยังไม่มีงานทำ บอกไม่มี จากนั้นเขาก็หายไปเลยกว่า 3 เดือน
“กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ส.ค. เจ้าหน้าที่พม.ได้ติดต่อแจ้งว่าลูกสาวได้รับบาดเจ็บมีอาการโคม่า สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงต้องทำการผ่าตัด รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเด็ก หลังรับแจ้งผมรีบเดินทางมาดูอาการของลูก แต่ไม่พบแม่เด็ก จนกระทั่งมาทราบเรื่องอีกว่า น้องพีพี ลูกชายคนเล็ก เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางบัวทอง เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากหย่ากับแม่ได้เพียง 3 วัน โดยแพทย์ระบุสาเหตุมีเลือดออกในช่องท้อง ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่มีเลือดออกในช่องท้องนั้นเป็นเพราะอะไรมีใครทำร้ายหรือไม่” นายณัฐพล กล่าว
ด้าน นางอนันต์ ย่าของเด็ก กล่าวว่า หลังจากทราบว่าหลานสาวบาดเจ็บ ได้ไปเยี่ยมหลานที่โรงพยาบาล แพทย์แจ้งว่าหลานมีปัญหามากที่สมองและมีภาวะติดเชื้อที่ปอดและทางเดินปัสสาวะ ต้องใช้เครื่องดูดเสมหะทุกครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง แพทย์ยังบอกว่าถ้าภายใน 6 เดือนทำกายภาพบำบัดแล้วอาการไม่มีขึ้น หลานสาวจะอยู่อย่างนั้นตลอดชีวิต
นางอนันต์ กล่าวต่อว่า ตนมาเยี่ยมหลานเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นหน้าดำคล้ำอยู่ในห้องไอซียู ครั้งแรกนึกว่าไม่ใช่หลานเรา ซึ่งแพทย์ยังบอกอีกว่า ถ้าเห็นน้องวันแรกจะไม่เชื่อเลยว่ายังมีชีวิตอยู่ ถึงตรงนี้ยังไม่รู้ว่าหลานสาวจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายและขอความกรุณาช่วยหาความยุติธรรมให้หลานสาวด้วย
นางอนันต์ กล่าวอีกว่า เมื่อตนไปถามตำรวจ สภ.บางบัวทอง ท้องที่เกิดเหตุ ในฐานะเป็นย่าของเด็กว่าคดีของหลานสาวเป็นอย่างไรบ้าง ตำรวจบอกว่าเรื่องคดีไม่ต้องโทรหา ให้ทางพม.ติดต่อมาโดยตรง จึงอยากจะถามว่า เป็นผู้เสียหายในฐานะตนเป็นย่าของผู้บาดเจ็บจะไม่มีสิทธิ์ถามรายละเอียดที่เกิดขึ้นจากตำรวจได้เลยใช่หรือไม่
ขณะที่ นายรณณรงค์ กล่าวว่า ทางพ่อของเด็กเดินทางเข้ามาร้องเรียนเรื่องลูกอายุ 3 ขวบ ถูกทารุณกรรมโดยคนใกล้ชิดของเด็กเอง หลังจากพ่อของเด็กเข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้เดินทางไปติดตามคดีพบว่ายังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย จนถึงวันนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใครทั้งสิ้น ปัจจุบันเด็กยังคงนอนรักษาตัวต่อเนื่องที่โรงพยาบาลเด็ก และทางบาดแผลซึ่งเชื่อว่าน่าจะถูกกระทำโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใครทำ
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า ในห้องที่เกิดเหตุมีผู้พักอาศัยอยู่ 4 คน 1 คนเป็นผู้ป่วยอาการหนักไม่สามารถทำอะไรเด็กได้ เหลืออีก 2 คน คือ แม่แท้ ๆ กับพ่อเลี้ยง ที่ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย และข้างห้องบอกว่าเด็กร้องเสียงดังบ่อย ตนรู้สึกแปลกใจมากที่ตำรวจสภ.บางบัวทองไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของคดีเลย ยังไม่มีการเรียกคนใกล้ชิดเด็กมาสอบปากคำ
นายรณณรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องน้องพีพีที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้เราขอทำเรื่องน้องเจ้าขาเสียก่อน เพราะถ้าน้องกลับมาปกติสามารถพูดคุยได้ เราน่าจะสอบถามเรื่องราวการเสียชีวิตของน้องพีพี โดยตอนนี้จะให้พ่อของน้องไปติดต่อกับทางสุเหร่าที่ฝังร่างของน้องเพื่อเอามาพิสูจน์การเสียชีวิต แต่มันจะยากแต่ก็ต้องทำเพื่อหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้