ชลบุรี-“ธวัชชัย”ผู้ว่าฯชลบุรีเปิดจวนให้การต้อนรับสมาคมนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นภาคตะวันออก13 บริษัทเพื่อเตรียมพร้อมเข้าลงทุนด้านภาคอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ถือเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองชลบุรีอีกหน้าหนึ่ง
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับและประชุมหารือกับสมาคมนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นภาคตะวันออก จำนวน 13 บริษัท ดังนี้ 1.บริษัทไทย ไดโซ แอโรโซล, 2. บริษัท ทีบีเคเค (ประเทศไทย) จำกัด, 3.บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด, 4.บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด, 5.บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด,6. บริษัท ไอซิน พาวเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด, 7.บริษัท ทีบีเค เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด, 8.บริษัท มอเรสโก้ (ไทยแลนด์) จำกัด, 9.บริษัท ไอ-เพ็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด, 10.บริษัท สยามโอคามูระอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, 11.บริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด, 12.บริษัท เอเอ็มซี เอเซีย จำกัด และสมาคมบริหารงานบุคคลภายตะวันออก ถือเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองชลบุรีอีกหน้าหนึ่ง และเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการสร้างแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรี ภาคตะวันออก และประเทศไทย
สำหรับจังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญด้านการอุตสาหกรรมเป็นแหล่งที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 16 แห่ง และมีท่าเรือขนาดใหญ่อีกทั้งเป็นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนตามนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีชี ซึ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรม เป้าหมาย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และอุตสาหกรรมพัฒนาคนและการศึกษา
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในฐานะของผู้บริหารของจังหวัด ขอรับรองว่าจะให้ความสำคัญกับนักลงทุนชาวต่างชาติ ทั้งนักลงทุนที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว หรือนักลงทุนที่กำลงจะเข้ามาลงทุนใหม่ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของทุกท่านเป็นไปอย่างราบรื่น มีความสะดวก ปลอดภัย เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำงานและอยู่อาศัย รวมถึงการสนับสนุนการลงทุนในอนาคต เช่น การพัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการต่างๆ เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา ให้เพียงพอรวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรให้เพียงพอกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม