เปิดคำสารภาพสาวสอง”ผู้นำลัทธิ”สุดป่าเถื่อน”ตำรวจนครบาล”ฟังแล้วถึงอึ้ง รับเทน้ำร้อนใส่เหยื่อผู้เสียหายจริง สั่งลูกสมุนงให้ตบหน้าเด็กจนกว่าเสียงจะดังอยู่ในระดับที่พอใจ
จากรณีตำรวจนครบาลบุกช่วยเหยื่อ 5 ราย ประกอบด้วยอดีต 3 พยาบาลสาวและลูก หลังถูกผู้นำคลั่งลัทธิ ลวงใช้หนี้อุปโลกน์ 140 ล้านบาท ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายสุดวิตถาร ทั้งโกนผมและลวกนํ้าร้อน อย่างทารุณนานกว่า 3 ปี เหตุเกิดในคอนโดฯหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร กระทั่งสามารถจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหา คือนายฮารุ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้นำลัทธิเถื่อนได้ในเวลาต่อมา ตามที่มีการเสนอข่าวนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2565 ภายหลัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บช.น. เข้าจับกุมตัวนายฮารุ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ที่กักขังเหยื่ออดีตพยาบาลสาว 3 ราย และลูกๆ อีก 2 ราย เพื่อนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวน บช.น. และพาตัวเข้าตรวจค้นห้องพักที่เกิดเหตุ ผลการตรวจค้น พบหนังสือจำนวนมาก, ภาพวาด และเครื่องบูชาแสดงถึงการมีความคลั่งลัทธิ และจากการตรวจสอบภายในพบว่าไม่พบเอกสารหรือสิ่งใดที่สามารถยืนยันชื่อสกุลจริงของนายฮารุได้ เพราะจะใช้ชื่อของเหยื่อในการทำธุรกรรมทั้งหมด
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนนายฮารุ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเพียงแต่ยอมรับว่า ได้เทน้ำร้อนผู้เสียหายจริง แต่เรื่องการสั่งให้ตบหน้าลูกนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนกรณีการเชิญชวนมาร่วมทำธุรกิจนั้นตนไม่เคยชักชวนใคร เพียงแต่เสนอไอเดียว่าเห็นเหยื่อเป็นอดีตพยาบาล จึงชวนมาสายความสวยความงามและจะลงทุนให้ เพราะเห็นว่าเหยื่อเงินไม่พอใช้ในการเลี้ยงลูกทั้ง 2 คน และตนเคยทำงานกับยูนิเซฟ ทำหน้าที่เป็นรีเสิร์ชชิ่ง ที่เกาหลีใต้และประเทศไทย ขึ้นอยู่กับโปรเจคท์ที่ทางยูนิเซฟอนุมัติให้ทำ และทำธุรกิจเครื่องประดับออนไลน์ เช่น e-bay amazon และออนไลน์ทางฝั่งเกาหลีใต้ทั้งหมด, เคยเรียนแฟชั่นและจิวเวลรี่ดีไซน์ แบบ certificate ของมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ, เคยเรียนแพทย์ทางเลือกแบบผสมที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ยังไม่จบหลักสูตร, เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ในช่วงโควิดระบาดหนักอีกด้วย
ด้าน นายตรีเพชรรัตน ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และให้การว่าตนได้รับคำสั่งจาก นายฮารุ ให้คอยควบคุมเหยื่อทั้ง 3 คน โดยช่วงหลังบังคับให้ตระเวนยืมเงินจากเพื่อนในเฟซบุ๊ก ในไลน์ คนรู้จัก และครอบครัว โดยจะต้องหาเงินให้ได้ 60,000 บาท ภายใน 48 ชม. เป็นครั้งคราวไป เมื่อครบกำหนดเวลา หากไม่สามารถหาเงินตามจำนวนดังกล่าวได้ นายฮารุ จะส่งตัวเองลงมาพูดคุย หากพี่ๆพยาบาลทั้ง 3 คน ให้คำตอบไม่ได้ดั่งใจ นายฮารุ จะสั่งให้ตนดำเนินการทำร้ายร่างกายบ้าง ตัดผมเด็กบ้าง ทุกครั้งที่มีการทำร้ายร่างกาย นายฮารุ เป็นคนสั่งการทั้งหมด ส่วนกรณีการตบหน้าเด็ก ถ้าเสียงตบไม่ดังอยู่ในระดับที่นายฮารุพอใจ ก็จะสั่งให้ผู้เสียหายตบจนพอใจ แต่ช่วงแรกๆที่ตนเข้ามาอยู่ใหม่ๆ พี่พยาบาลทั้ง 3 คน ก็เคยรุมทำร้ายร่างกายตนตามคำสั่งของนายฮารุ เช่นกัน
จากการตรวจสอบประวัตินายฮารุ พบว่า มีหมายจับของศาลแขวงธนบุรีที่ 173/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค. 62 ข้อหา “ฉ้อโกง” และยังพบประวัติการกระทำความผิดในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ในปี 2557 ข้อหา “ฉ้อโกง” นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนชื่อถึงจำนวน 9 ครั้ง.