กอนช. ประเมินพบโอกาสจะมีพายุหมุนเขตร้อนผ่านเข้าประเทศไทย 1-2 ลูก ช่วยเติมน้ำต้นทุนในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. นี้ พร้อมเตรียมบริหารความเสี่ยงทั้งภัยแล้งจากเอลนีโญ – อุทกภัยในช่วงฤดูฝนอย่างมีประสิทธิภาพ
นาย สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ ว่า เนื่องจากในช่วงนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ชายขอบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
โดย กอนช. ได้มีการประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยช่วงที่ผ่านมามีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ตาก จ.อำนาจเจริญ จ.นครพนม จ.อุดรธานี ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม นับเป็นสัญญาณดีที่มีฝนตกมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หลายพื้นที่และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะอ่างฯ ที่มีปริมาณน้ำน้อย เช่น เขื่อนสิริกิติ์ เชื่อนภูมิพล เป็นต้น โดยในช่วงวันที่ 27 ก.ค. – 2 ส.ค. 66 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ รวม 1,221 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับพื้นที่ตอนกลางของประเทศและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ยังคงมีฝนค่อนข้างน้อยกว่าปกติ และมีแนวโน้มประสบปัญหาภัยแล้ง จึงจำเป็นต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน
“ปัจจุบันมีปริมาณน้ำทั้งประเทศ 41,413 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 50% ของความจุรวม โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การเพียง 17,307 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 30% แม้ว่าสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ จะดีขึ้น แต่ยังถือว่ามีปริมาณน้ำน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง นอกจากนี้ ปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศก็ยังคงต่ำกว่าค่าปกติ 19% จึงไม่สามารถประมาทได้แม้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้