เมื่อวันที่ 21 ก.ค. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ชี้แจงกรณีมีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีฮั้วประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งได้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 ให้เพิกถอนมติและประกาศยกเลิกการคัดเลือกเอกชนนั้นคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับ จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามมาตรา 70 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
ปัจจุบัน รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) อยู่ระหว่างใช้สิทธิอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน ดังนั้นคดีดังกล่าวจึงยังไม่ถึงที่สุดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามประเด็นที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลห้ามคณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม. ใช้เอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนฉบับเดือนพ.ค.65 นั้น ศาลพิพากษาว่า ศาลไม่อาจมีข้อสังเกตตามข้ออ้างดังกล่าวได้ เนื่องจากมิใช่ประเด็นแห่งคดี ประกอบกับศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งที่ 354/2564 ไม่รับฟ้องในข้อหาที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลพิพากษาห้ามมิให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม. กระทำการที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกเอกชนครั้งใหม่ และคำสั่งดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว
ส่วนประเด็นการกำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับวันที่ 24 พ.ค.65ในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เพื่อกำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าว ได้มีผู้แทนจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนภาคเอกชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ตามระบบข้อตกลงคุณธรรมด้วยทุกครั้ง ซึ่งการกำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอฯ ได้พิจารณาโดยอ้างอิงจากระเบียบและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คุณสมบัติดังกล่าวจึงมีลักษณะเปิดกว้าง เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และไม่เป็นการกีดกันหรือเอื้อประโยชน์แก่เอกชนรายใด
รฟม. เป็นองค์กรของรัฐที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงคำพิพากษาและคำสั่งของศาลที่มีผลบังคับตามกฎหมาย ทั้งนี้หากมีการดำเนินการของผู้ใดที่มีลักษณะเป็นการขัดขวางการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ รฟม. ซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ และความสำเร็จของโครงการ รฟม. จำต้องรักษาสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพศ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร(กม.) แบ่งเป็น ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กม. 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 13.4 กม. 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)