กรมทางหลวง เผย เส้นทางไหนสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วมแล้ว 23 จังหวัด เผย การจราจรผ่านไม่ได้แล้ว 30 แห่ง ขอให้ใช้ความระมัดระวังการเดินทาง
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2565 กรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า ทล. ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดยปัจจุบันพบทางหลวงถูกน้ำท่วมและดินสไลด์ ในพื้นที่ 23 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร สระบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี นครปฐม ปราจีนบุรี ระยอง เพชรบุรี และกาญจนบุรี จำนวน 51 สายทาง 80 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 30 แห่ง ดังนี้
1.จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล-ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150-34+000 ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด-เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700-7+200 ระดับน้ำ 80 เซนติเมตร (ซม.) การจราจรไม่สามารถผ่านได้, ทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง-โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+500 -15+100 ระดับน้ำ 40-45 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600
2.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ-ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000-313+384 ระดับน้ำ 60-80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178, ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง-สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000-19+500 ระดับน้ำ 45-80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน-เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500-29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน-เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000-31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน-เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000 – 39+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้, ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย-กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500-107+125 ระดับน้ำ 80-90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน,
ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก-ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000-16+050 ระดับน้ำ 40-80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน และทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา-ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000-16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60-80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
3.จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2285 ตอน ประทาย-ชุมพวง ในพื้นที่ อ.ชุมพวง ช่วง กม.ที่ 18+700-20+300 ระดับน้ำ 30 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.2 ตรงไปถึงแยกบ้านวัดเลี้ยวขวาเข้า ทล.207
4.จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู-เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500- 42+000 ระดับน้ำ 20 – 65 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013
5.จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 8 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ-อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400-419+600 ระดับน้ำ 115 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี, ทางหลวงหมายเลข 23 ตอนเขื่องใน-อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 259+700-261+800 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน-อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 274+840 น้ำกัดเซาะข้างท่อเหลี่ยม ทำให้ถนนทรุด (ปิดการจราจรขาออก ใช้ทางเบี่ยง), ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง-วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400-313+700 ระดับน้ำ 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน,
ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง-วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600-319+800 ระดับน้ำ 130 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600-8+200 ระดับน้ำ 105-135 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231,
ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน-นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120-14+550 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382 ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าวารี-ท่าศาลา ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+500-10+325 ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
6.จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 3034 หน้าพระลาน-บานครัว ในพื้นที่ อ.บ้านหม้อ ช่วง กม.ที่ 13+200-15+700 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
7.จังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 33 ตอน นาคู-ปาโมก ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 100 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้, ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง-บงหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900-1-+400 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ และทางหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง-บหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400-1000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
8.จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย-วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+500-3+000 ระดับน้ำ 105 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030, ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา-บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 39+900-4-100 ระดับน้ำ 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย),
ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา-บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 57+400-5+850 ระดับน้ำ 60 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) และทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ-บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 0+000-0+100 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
9.จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 3522 ตอน เนินฝอยทอง-ทุ่งผักเบี้ย ในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี ช่วง กม.ที่ 3+800-4+100 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
อย่างไรก็ตาม กรมฯได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที
นอกจากนี้ กรมฯได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด