ร้อยเอ็ด-พ่อนำร่างลูกสาว ถูกฆ่าหั่นศพกลับบ้านเกิด เพื่อนำบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด พร้อมวอนผู้มีความรู้ทางกฎหมายช่วยดูคดี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อครอบครัว
จากกรณี ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งจากแม่บ้านของคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักห้องหนึ่ง ได้กลิ่นคาวเลือด และน้ำภายในห้องน้ำถูกเปิดทิ้งไว้ จึงได้โทรแจ้งเจ้าของคอนโด พร้อมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายชาญวิทย์ กับ น.ส.อรนันท์ หรือพิณ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นผู้มาเช่าห้องพักห้องดังกล่าว
หลังจากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถจับกุมตัวนายชาญวิทย์ วงศ์สหาก หรือดอน อายุ 35 ปี ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.พิณ อายุ 30 ปี ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตไปฝังดินบริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช ริมถนนประเสริฐมนูกิจ ย่านลาดพร้าว กทม. จากนั้นนำอาวุธที่ใช้ลงมือชำแหละศพและของใช้ผู้ตายไปโยนทิ้งคลอง ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 65 ครอบครัวและเพื่อนของ น.ส.พิณ ผู้เสียชีวิต เดินทางทำเอกสารรับศพ ก่อนจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนจะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่บ้านเกิด วัดบูรพาภิราม เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งจะตั้งสวดอภิธรรมเพียงคืนวันที่ 4 ต.ค. 65 และจะทำการฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.)
สอบถามพ่อของน้องพิณ เปิดเผยว่า วานนี้ตนและญาติๆ ได้นำร่างอันไร้วิญญาณของลูกสาว เดินทางกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่ วัดบูรพาภิราม พระอารามหลวง เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งเดินทางมาถึงช่วงกลางดึกของคืนวานนี้ (3 ต.ค.) โดยทางครอบครัวก็ตั้งใจจะตั้งบำเพ็ญกุศล 2 วัน แต่เนื่องจากติดงานศพที่มีการจองล่วงหน้าไว้ก่อนหน้านี้ จึงสามารถตั้งบำเพ็ญกุศลศพได้เพียง 1 คืน (4 ต.ค.) แล้วจะทำการฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันที่ 5 ต.ค. 65 เพื่อส่งดวงวิญญาณของน้องพิณให้ไปสู่สัมปรายภพ
ตนได้พบกับน้องพิณล่าสุดเมื่อช่วงที่พาไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ หลังจากนั้นก็มีเพียงโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุขดิบ เพราะลูกสาวก็ทำงานที่กรุงเทพฯ ก็วางแผนว่าหมดหน้าฝนจะพาลูกสาวไปเที่ยวที่ภาคเหนือ แต่ลูกสาวก็มาด่วนจากไป จากฝีมือคนที่โหดเหี้ยมอำมหิต ทำกับลูกของตนได้อย่างเลือดเย็น
ด้านความคืบหน้าทางคดี ทางตนเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย แต่ก็มีหลักฐานอีกหลายอย่าง ที่เพื่อนในที่ทำงานของน้องพิณเองก็ยังมีปมสงสัย ก็ฝากให้ตนไปสอบถามถึงสำนวนจากการสอบสวนของทางตำรวจ ตนเองก็เชื่อว่าความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้นในสังคม
ทางครอบครัวเองยืนยันว่าหลังจากฌาปนกิจศพของน้องพิณเสร็จ จะได้เข้าพูดคุยกับผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย เพื่อจะเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้ต้องหารับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต เชื่อว่าสื่อจะช่วยเป็นกระบอกเสียง และติดตามความคืบหน้าทางคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อครอบครัว ตนยินดีหากมีทนายชื่อดังจะเข้ามาช่วยดูแลคดี แต่คงไม่มีเงินจ้างทนาย เพราะครอบครัวเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย.