สมุทรปราการ-ชาวราชวินิตบางแก้วสุดทนรวมตัวลงทะเบียนรายชื่อเพื่อยื่นหนังสือให้กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางพลีและศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 ผ่านไปยังคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับเรื่องกระบวนการ EIA คัดค้านโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมยักษ์ ส่งเสียงดังก่อมลภาวะ
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ที่หน้าศูนย์แพทย์ชุมชน ในซอยโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ถ.บางนา-ตราด กม.7 ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ เขต 4 พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎร พร้อม นายเรวัต หุนารัตน์ ปลัดอำเภอบางพลี นายสรรเสริญ นาคทรัพย์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางแก้ว นายธีระพันธ์ นาคทรัพย์ กำนัน ต.บางแก้ว พร้อมทีมทนายความ ได้มาร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนชาวบ้าน หลังได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างของโครงการคอนโดขนาดใหญ่ในพื้นที่ ส่งเสียงดังในเวลากลางคืน และผลกระทบฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอาคารคอนโดขนาดใหญ่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ได้ก่อสร้างเฟส 1 และ เฟส 2 และไม่ได้รับการดูแลจากโครงการทั้ง 2 มาก่อนหน้า
ล่าสุดชาวบ้านทราบว่า จะมีโครงการก่อสร้างเฟส 3 ที่กำลังจะเข้ามาสร้างในพื้นที่ชุมชนอีก ทำให้ชาวชุมชน ซ.ราชวินิตบางแก้วกว่า 200 หลังคาเรือน ทนสภาพเดิมไม่ไหว จึงได้นัดรวมพลังเพื่อขอความช่วยเหลือกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางพลี และ ส.ส.วุฒินันท์ กรณีโครงการก่อสร้างคอนโดขนาดยักษ์ดังกล่าว ส่วนบรรยากาศทั่วไปได้มีชาวบ้านจำนวนมาก ได้เดินทางมาลงทะเบียนรายชื่อเพื่อยื่นหนังสือให้กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางพลีและศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 ผ่านไปยังคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับเรื่องกระบวนการ EIA โครงการคอนโดขนาดใหญ่ในชุมชนราชวินิตบางแก้ว พร้อมแจกสติกเกอร์สีส้มเพื่อนำไปติดยังบอร์ดปัญหาที่ชาวบ้านส่วนใหญ่อยากให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขช่วยเหลือ ซึ่งผลปรากฏว่าปัญหาด้านจากจราจร ปัญหาชุมชุมแออัด และปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ในอันดับต้นๆโดยมี นายอมรชัย อมรส่งเจริญ พร้อมตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างๆได้ร่วมกันยื่นหนังสือร้องเรียนผ่าน นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ เขต 4 พรรคก้าวไกล และปลัดอำเภอส่งไปยัง นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี ในฐานะหัวหน้าดูแลศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางพลี เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยตรวจสอบกระบวนการการทำ EIA ของโครงการดังกล่าว รวมถึงทางหน่วยงานภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลและดำเนินการอนุญาต
ด้านนายอมรชัย อมรส่งเจริญ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า หลังโครงการก่อสร้างเฟส 1 และเฟส 2 เฉพาะชุมชนที่มีเกือบ 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ในขณะนี้ได้มีประชาชนใกล้เคียงได้มาลงชื่อต่อต้านโครงการในขณะนี้เป็นพันคนแล้ว โดยกว่าเกือบ 3000 หลังคาเรือนจะได้รับผลกระทบระหว่างดำเนินการก่อสร้างทันทีโดยเฉพาะปัญหาด้านการจราจรและปัญหาน้ำท่วมที่อยากฝากให้หน่วยงานภาครัฐช่วงเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง