ผู้ค้ายอมรับ ราคาไข่ แพงเป็นประวัติการณ์ ทำตลาดช็อก ลดการซื้อ เชื่อ ราคา 3.60 บาท ฟาร์มปรับเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2565 นายสุธาศิน อมฤก นายกสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย เปิดเผยถึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มซึ่งล่าสุดปรับขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท ถือเป็นสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ว่า เชื่อว่าการปรับราคาไข่ครั้งล่าสุดของกลุ่มผู้เลี้ยงนั้น เป็นการฝืนปรับราคา ไม่ได้ปรับขึ้นตามกลไกลตลาด คือ ปริมาณไข่ และความต้องการ เนื่องจากขณะนี้ภาวะการณ์ซื้อขายไข่ยังทรง ๆ และเริ่มลดลง เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกทุกวัน ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจต่าง ๆ หยุดชะงักการบริโภคลดลง
“การปรับขึ้นราคาไข่คละครั้งนี้ เชื่อว่าฟาร์มเลี้ยงปรับขึ้นราคาแบบฝืน ๆ ซึ่งอาจจะเป็นการขึ้นราคาไข่เป็นรอบสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจในช่วงปลายเดือนก.ย. เป็นการดันราคาให้สูงไว้ก่อน เพื่อเก็บส่วนต่าง จะได้มีผลกระทบไม่มาก เมื่อเข้าสู่เทศกาลเจซึ่งไข่จะมีราคาปรับลดลง” นายสุธาศิน กล่าว
นายสุธาศิน กล่าวยอมรับว่า ราคาไข่ที่แพงเป็นประวัติการณ์นั้น ช่วงแรกอาจจะทำให้ผู้ค้าไข่ตกใจลดการซื้อมาขาย เพราะไม่มั่นใจตลาดว่าซื้อไปจะขายได้หรือไม่ รวมทั้งผู้ค้ายังไม่สามารถปรับราคาจำหน่ายได้เอง เพราะต้องราคาประกาศหน้าฟาร์มเท่านั้น และบวกเพิ่มจากราคาแนะนำได้ไม่มากเฉลี่ยฟองละ 10 สตางค์เท่านั้น ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่ายอดขายไข่จะตกหรือไม่
นายสุธาศิน กล่าวต่อว่า ขณะที่ต้นทุนการค้าไข่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ค้าไข่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมันดีเซลที่แพง ทำให้ต้นทุนขนส่งเพิ่ม รวมถึงค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ร้านค้า ล้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในขั้นตอนการใช้เครื่องคัดไข่ ทำให้กำไรลดลงเหลือน้อยมาก
“เพื่อให้ราคาไข่ไก่มีเสถียรภาพในระยะยาว ไม่ปรับขึ้นลงเร็ว ผมขอเสนอให้รัฐบาลจัดทำโครงการไข่โรงเรียน เหมือนกับโครงการนมโรงเรียน เพื่อเพิ่มอัตราการบริโภคไข่ต่อวัน โดยนำไข่ไปบรรจุในเมนูอาหารของโรงเรียนในสังกัดรัฐบาลให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับโปรตีนที่มีคุณค่าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยประคองธุรกิจการค้าไข่ไก่ให้เดินต่อไปได้ด้วย เบื้องต้นได้หารือและนำเสนอโครงการกับกรมปศุสัตว์แล้ว แต่ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้า” นายสุธาศิน กล่าว