ตำรวจสน.หนองค้างพลูส่งทีมระดมล่า “ไอ้มอส คลองขวาง” หลอนยาคว้า 9 มม.ถล่มบ้านเพื่อน 16 นัด เจ็บสาหัส 1 ราย
เมื่อช่วงกลางดึก ของวันที่ 14 ส.ค.65 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.รับรายงานเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญกรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงถล่มกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ในพื้นที่ สน.หนองค้างพลู โดย พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 รางานว่า เมื่อเวลา 22.04 น. วันที่ 11 ส.ค.พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ในบ้านเช่าเลขที่ 78/162 หมู่บ้านเพชรทวีสุข ถนนเพชรเกษม ซอย 106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.
เมื่อรุดไปตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.กระจายเกลื่อนหน้าบ้าน 16 ปลอก ส่วนบริเวณตัวบ้านทั้ง 2 ชั้น มีหัวกระสุนปืนและชิ้นส่วนหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันฝังอยู่ตามกำแพง ฝ้าเพดาน และข้าวของเครื่องใช้ จำนวนมาก โดยจุดเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย ถูกพลเมืองดีนำส่ง รพ.วิชัยเวช ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อ คือ นายธนพล อนุสรชัยเจริญ หรือ “บุ๊ค” อายุ 28 ปี อาชีพพ่อค้ารถมือสอง เพื่อนสนิทเจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ศรีษะด้านหลัง 1 นัด ท้ายทอย 1 นัด เท้าขวา 1 นัด รวมทั้งสิ้น 3 นัด เบื้องต้นอาการเป็นตายเท่ากันเนื่องจากขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู
จากการสอบสวน น.ส.วรรณวิศาข์ กลิ่นจำปา หรือ “กัส” อายุ 30 ปี เจ้าของบ้านเช่าหลังดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุ นายธนพล ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เดินทางมาหาตนและสามี ซึ่งประกอบธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองด้วยกัน สนิทกันจนติดโควิด อยู่ในคลัสเตอร์เดียวกัน โดยในบ้านนั้นมีน้องมิลิน บุตรสาววัย 7 ขวบของตน พักอาศัยอยู่ด้วย กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.วันดังกล่าว มือปืนซึ่งอดีตเคยรู้จักกันดี คือ นายมีน พาระสิงห์ หรือ “มอส คลองขวาง” อายุ 25 ปี ได้เดินทางมาที่หน้าบ้าน ก่อนชักอาวุธปืนกระหน่ำใส่บ้านตน เสียงดังหูดับตับไหม้ รวม 16 นัด ก่อนที่จะขึ้นรถ จยย.หลบหนีไปกับเพื่อนผู้ชายไม่ทราบชื่อ อีก 1 คน
น.ส.วรรณวิศาข์ ให้การอีกว่า ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการที่พวกตนทั้งหมดพยายามตีตัวออกห่าง นายมีน ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย เนื่องจากมีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง และชอบเคี้ยวยาโรฮิปนอล 542 หรือยาลิ้นฟ้าตลอดเวลาจนมักเกิดอาการหลอน ประกอบกับก่อนหน้านี้มีปมขัดแย้งกันกับพวกตนหลายเรื่อง อาทิกรณีที่ นายมีน ไม่ยอมชดใช้ค่ารักษาพยาบาลที่สุนัขของนายมีน กัดรุ่นน้องผู้หญิงของตน เข้าที่ใบหน้า จนต้องออกค่ารักษาเองประมาณ 7,000 – 8,000 บาท เรื่องที่ นายมีน ติดค้างชำระค่างวด รถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเหลือง ทะเบียน 1 กฬ 8774 กรุงเทพมหานคร ที่ซื้อจากพวกตนไปอีกประมาณ 20,000 บาท จนทำให้ยังโอนกรรมสิทธิ์ครอบครองกันไม่ได้ และเรื่องที่ นายมีน เปียแชร์วงเงิน 10,000 บาท ไม่ได้เพราะถูกตนเปียตัดหน้าเมื่อไม่นานมานี้ จึงสร้างความโกรธแค้นถึงขนาดทำให้ นายมีน โพสต์ด่าและท้าทายพวกตนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว
“กระทั่งเหตุการณ์ที่ นายมีน น่าจะแค้นเคืองมากที่สุด จนต้องบุกมาสาดยิงคนในบ้านตน ก็คือ กรณีที่อดีตแฟนสาว ของ นายธนพล ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเลิกรากันไปแล้ว และปัจจุบันคบหาอยู่กับ นายมีน ได้ทักแชตข้อความมาหา นายธนพล หลังจากที่ทราบว่า นายธนพล ป่วยเป็นโรคโควิด ทำให้ นายมีน ระงับสติอารมณ์ไม่อยู่พาเพื่อนบุกมาใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงกราดที่หน้าบ้านตนหลายนัด เป็นเหตุให้ นายธนพล ซึ่งกำลังแยกกักตัวเพราะต้องรักษาโรค ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน แพทย์บอกให้ญาติๆ ทำใจเอาไว้ ที่สำคัญระหว่างเกิดเหตุ น้องมิลิน บุตรสาวตนซึ่งนอนอยู่บนชั้นที่ 2 ของตัวบ้าน ยังมีอาการนอนสะดุ้งขวัญผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัว นายมีน และเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะไม่รู้ว่า นายมีน จะย้อนกลับมาก่อเหตุอีกเมื่อไหร่” น.ส.วรรณวิศาข์ กล่าว
ขณะที่แนวทางการสืบสวน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 ได้สั่งการให้ ฝ่ายสืบสวน สน.หนองค้างพลู และ กก.สส.บก.น.9 ทำการตรวจสอบประวัติ ของนายมีน หรือ “มอส คลองขวาง” ผู้ต้องหารายนี้ ทราบว่า เมื่อปี 2559 เคยถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมข้อหาร่วมกันกับพวกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ติดคุกพ้นโทษออกมาไม่นาน พฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนตลอดเวลา โดยพยานปากสำคัญซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มระบุว่า นายมีน ชอบพกพาอาวุธปืนบรจุกระสุนลูกดก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อซิกซาวเออร์ รุ่น P320 ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องแต่ยังไม่ได้ทำเรื่องรับโอน ติดตัวพกพาไปไหนมาไหนตลอดเวลา จำนวน 1 กระบอก
ทั้งนี้หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้ไปตามจับกุม นายมีน ที่บ้านพักย่านคลองขวาง เพชรเกษม 69 แล้วแต่ไม่พบ ประกอบกับเจ้าตัวได้ปิดเฟซบุ๊กและปิดทุกช่องทางการติดต่อสื่อสารหายไปพร้อมกับรถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเหลือง ทะเบียน 1 กฬ 8774 กรุงเทพมหานคร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ที่ร่วมเดินทางไปก่อเหตุ คาดว่า เป็น นายฟลุ๊ค (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุประมาณ 20-23 ปี ลูกน้องคนสนิท เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างหาเบาะแสเช่นกัน โดยหลังจากนี้นั้น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการให้ชุดจับกุมใช้ความระมัดระวังในการเร่งตามล่าตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาดำเนินคดี เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา.