พระนครศรีสอยุธยา-ตำรวจแจ้งข้อหา 13 ราย ศึก 2 โรงน้ำแข็งเมืองกรุงเก่าเปิดศึกไล่ยิงถล่มย่านชุมชน หลังวิ่งทับเส้นทาง ด้านตำรวจเข้ามาให้ทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยเพื่อยุติปัญหา ป้องกันการล้างแค้น
จากกรณี 2 โรงน้ำแข็งเมืองกรุงเก่าเปิดศึกใช้อาวุธปืนไล่ยิงถล่มกันกลางถนนย่านชุมชนของอยุธยา หลังเกิดปัญหาวิ่งทับเส้นทาง และขายตัดราคาจนเป็นเรื่องบาดหมาง ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2565 พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ระดมพนักงานสอบสวนกว่า 10 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม และสอบสวนผู้บาดเจ็บ กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดทั้งคืนสอบปากคำแล้วเสร็จทั้งหมด 13 ราย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 13 ราย ในข้อหาร่วมกันก่อเหตุชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พยายามฆ่า ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ตรวจยึดยานพาหนะ 4 คัน ตรวจยึดอาวุธปืน 7 กระบอก การจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาให้การรับสารภาพทุกคน ยังมีการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมหากพบการกระทำความผิดหรือมีบุคคลกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเฉียบขาด
ในกลุ่มของผู้ต้องหาแบ่งเป็นฝ่ายโรงน้ำแข็งอโยธยา 2 คน โรงน้ำแข็งพันล้าน จำนวน 8 คน และฝ่ายของกำนันตำบลเกาะเรียน จำนวน 3 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 2 ราย เป็นฝ่ายโรงงานน้ำแข็งอโยธยา 1 ราย และอีก 1 ราย โรงน้ำแข็งพันล้าน
ส่วนของความผิดมากน้อยจะต่างกันอยู่ที่พฤติกรรม และพยานหลักฐาน จากการสอบสวน การทะเลาะวิวาทเกิดจาการขัดแย้งทางธุรกิจการส่งน้ำแข็ง ซึ่งได้ถูกประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้วทั้งหมด 9 ราย เหลืออีก 4 ราย คือทางฝ่ายพันล้าน ที่อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.อ ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า จากกรณีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เกิดจากปัญหาเรื่องของผลประโยชน์ แนวโน้มอาจจะไม่ยุติ หรืออาจจะมีการแก้แค้นกัน ส่วนในเรื่องปัญหาสาเหตุที่เกิดเรื่องเกิดจากการวิ่งทับเส้นทาง และเกิดจากปัญหาที่ลูกน้องทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกัน จึงพากันก่อเหตุจนเกิดเรื่องบานปลาย ซึ่งระหว่างนี้จะต้องทำเรื่องรายงานผู้บังคับบัญชา และให้ทั้งสองฝ่ายเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกันเพื่อยุติปัญหา เพื่อป้องกันการล้างแค้นและบานปลาย