วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 เวลา 07.30 น. ณ ห้อง 221 อาคาร 2 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา 4 หน่วยงาน ซึ่งตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม ของทุกปี ได้แก่ กรมกำลังพลทหารบก, กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก, กรมสารบรรณทหารบก และ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก ครบรอบปีที่ 70 โดย ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ได้นำกำลังพลจากทั้ง 4 หน่วยงาน กระทำพิธีสงฆ์ โดยนิมนต์พระสงฆ์จาก วัดโสมนัสราชวรวิหาร จำนวน 10 รูป กระทำพิธี
ทั้งนี้ในช่วงเช้า ตั้งแต่ เวลา 06.30 น. ผู้บังคับบัญชา ของทั้ง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย พลโท นุกูล โล่ประเสริฐ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก พลโท เทวมิตร พลภักดี เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก พลโท กำธร บุญทอง เจ้ารกรมสารบรรณทหารบก และ พลตรี อานุภาพ ศิริมณฑล เลขานุการกองทัพบก ได้ร่วมกันกระทำพิธีสักการะศาลพระชัยมงคลภูมิ และพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ก่อนเข้ากระทำพิธีสงฆ์
กรมกำลังพลทหารบก
การจัดตั้งหน่วยงานด้านกำลังพลของ ทบ. ได้มีการจัดตั้งมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465 แต่มีรูปแบบ การจัดที่ไม่ชัดเจน โดยหน่วยงานด้านกำลังพลมีฐานะเป็นเพียงแผนกที่ 1 สังกัด กรมยุทธศาสตร์ทหารบก และในปี พ.ศ. 2491 ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานซึ่งกำหนดภารกิจให้ปฏิบัติงานด้านกำลังพลโดยเฉพาะมีสถานะเป็นหน่วยส่วนกลางจัดอยู่ในแผนกที่ 1 สังกัด กรมเสนาธิการทหารบก มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดกำลัง การกำหนดกำลัง ระดมกำลัง การบรรจุ เลื่อน ลด ปลด ย้ายตำแหน่ง การบำเหน็จและวิทยาการของสัสดี ใช้ชื่อย่อว่า สธ.ทบ.1 ตั้งอยู่ในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อมาในปี พ.ศ. 2495 ทบ. ได้มีการปรับการจัดหน่วยต่าง ๆ และได้ยกฐานะ แผนกที่ 1 กรมเสนาธิการทหารบก เป็น กรมกำลังพลทหารบกตามราชกิจจานุเบกษา เล่ม 69 ตอนที่ 48 ลง 5 ส.ค. 2495 โดยอนุมัติให้ใช้อัตรา เมื่อ 6 ส.ค. 2495ซึ่งถือได้ว่าวันที่ 6 ส.ค. ของทุกปี เป็นวันสถาปนากรมกำลังพลทหารบก ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ปัจจุบัน กรมกำลังพลทหารบก มีการจัดหน่วยตามอัตราการจัดเฉพาะกิจ หมายเลข 1100 โดยมี พลโท นุกูล โล่ห์ประเสริฐ เป็น เจ้ากรมกำลังพลทหารบก
กรมกำลังพลทหารบก เป็นหน่วยหลักในการกำหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการกำลังพลของกองทัพบกด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาให้กำลังพลของกองทัพบกเป็นผู้มีกำลังกาย กำลังใจเข้มแข็ง มีระเบียบวินัย มีความภาคภูมิใจในความเป็นทหารอาชีพมีเกียรติยศ และศักดิ์ศรี มีความรู้ความสามารถ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย โดยในห้วงที่ผ่านมา กรมกำลังพลทหารบก มีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ ได้แก่
- การพัฒนาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติงานใน ทบ. ด้วยการรวมการสอบคัดเลือกกำลังพลหลายประเภท เข้าในการสอบคัดเลือกเพียงครั้งเดียว “คลิกเดียวจบครบทุกการสอบ” หรือ “One Stop Service”
- ระบบทดแทนสำเนาเอกสารราชการ (Reduction of Copies of Documents : RCOD) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2 ต.ค. 61 มาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน (การไม่เรียกสำเนาเอกสารทางราชการออกให้จากประชาชน)
- การมอบเงินสวัสดิการช่วยเหลือการคลอดบุตรทหารใหม่ ผลัดที่ 2/2564 และ 1/2565
- การจัดหารถเข็นวีลแชร์ให้แก่กำลังพลและครอบครัวที่มีความจำเป็นต้องใช้รถเข็นวีลแชร์ในชีวิตประจำวัน
- การให้ความช่วยเหลือทหารกองประจำการและนักเรียนทหารที่บ้านพักส่วนตัวประสบภัยธรรมชาติ
- การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสวัสดิการ ทบ. เพื่อเป็นค่าอาหารเพิ่มเติมให้กับครูฝึกทหารใหม่
- การปรับค่าบริการห้องพักสำหรับกำลังพล ทบ. ของสถานพักฟื้นและพักผ่อน ทบ. ที่ดำเนินการในรูปแบบการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ
ทั้งนี้กรมกำลังพลทหารบก มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการทำงานเพื่อให้เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพในทุกด้าน มีความทันสมัย และให้ความสำคัญกับกองทัพบกเป็นที่สุด
กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก
งานด้านการส่งกำลังบำรุง เริ่มจัดตั้งเป็นหน่วยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2430 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยจัดตั้งเป็นกองยกกระบัตร และในเวลาต่อมาเปลี่ยนเป็นกรมยกกระบัตรทหารบก จากนั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2453 – 2481 เป็นเวลา 28 ปี ได้ปรับหน่วยเป็นแผนกที่ 4 ในกรมเสนาธิการทหารบก ที่รับผิดชอบงานด้านส่งกำลังบำรุง จนกระทั่งเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2495 ได้มีการจัดตั้งกรมฝ่ายเสนาธิการขึ้น จำนวน 4 กรม ได้แก่ กรมกำลังพลทหารบก, กรมข่าวทหารบก, กรมยุทธการทหารบก และ กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก โดยมี พลตรี สุรจิต จารุเศรณี ในขณะนั้น เป็นเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบกท่านแรก และในปี พ.ศ. 2516 ได้กำหนดให้วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2495เป็นวันสถาปนากรมส่งกำลังบำรุงทหารบกอย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา นับตั้งแต่ก่อตั้งกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 70 ปี มีเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบกแล้ว จำนวน 28 ท่าน ปัจจุบันมี พลโท เทวมิตร พลภักดี เป็นเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก
กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ทำงานอย่างผู้ปิดทองหลังพระ มีบทบาทที่สำคัญต่อกองทัพบก ทั้งการดำรงสภาพกำลังทหาร และเสริมสร้างศักยภาพกองทัพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันประเทศ พัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน หน้าที่แรกที่สำคัญของกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก คือ การพัฒนาความพร้อมของกำลังพลในกองทัพบก ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ อาหาร เครื่องแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ตลอดจนการบริการทางการแพทย์ หน้าที่ต่อมา คือ การเสริมสร้างศักยภาพความพร้อมรบให้กับกองทัพ ในการจัดหายุทโธปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งการดูแลและซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับงบประมาณ นอกจากนั้นกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ยังตระหนักถึงความสำคัญของการพึ่งพาตนเอง เพื่อความยั่งยืนของศักยภาพกองทัพ จึงเกิดแนวคิดการผลิตเพื่อใช้เอง และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยได้กำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ปัจจุบันมีการดำเนินการที่สำคัญตามมาตรฐานสากล จำนวน ๒ แผนงาน ได้แก่ แผนงานการผลิตยางรถยนต์ และแผนงานการผลิตกระสุนปืนเล็ก นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กรุณามอบนโยบายการปฏิบัติงาน ให้ความสำคัญกับการซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่เดิม ให้สามารถดำรงสภาพการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการจัดหาและพิจารณาใช้งานยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการพัฒนาระบบสารสนเทศสายงานส่งกำลังบำรุง (LOGSMIS) การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น สำหรับยุทโธปกรณ์ที่มีมูลค่าสูง เพื่อป้องกันการชำรุดและยืดอายุการใช้งาน เป็นต้น
หากเปรียบกองทัพเสมือนกับร่างกาย กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ก็อาจเปรียบได้กับเส้นเลือดที่นำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่นเดียวกับการส่งกำลังบำรุงให้กับหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพบก ให้พร้อมปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์และต่อเนื่อง เป็นความภูมิใจของกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุน และผลักดันให้ทุกภารกิจของกองทัพบกสำเร็จไปด้วยดี เพื่อพัฒนากองทัพบกให้เจริญก้าวหน้า และทันสมัยไปพร้อม ๆ กัน
กรมสารบรรณทหารบก
กรมสารบรรณทหารบก (THE ADJUTANT GENERAL DEPARTMENT) ในฐานะกรมฝ่ายกิจการพิเศษสายงานกำลังพลของกองทัพบก มีภารกิจ ดำเนินการเกี่ยวกับงานสารบรรณ งานธุรการ และพิธีการ ดำเนินการเกี่ยวกับการสนับสนุนการจัดการกำลังพล และธุรการกำลังพลตามที่กองทัพบกกำหนด จัดทำหลักนิยม ตำรา และการฝึกศึกษาของเหล่าทหารสารบรรณ ปัจจุบันมี พลตรี กำธร บุญทอง ดำรงตำแหน่ง เจ้ากรมสารบรรณทหารบก
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมสารบรรณทหารบกได้มีการมุ่งเน้นพัฒนาการดำเนินงานด้านสิทธิกำลังพลอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับภารกิจของหน่วย เพื่อให้มีความรวดเร็ว ถูกต้อง ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนี้
ด้านการสนับสนุนการจัดการกำลังพลและธุรการกำลังพล ดำเนินการเกี่ยวกับการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ การโอน การปลด การลาออก การแต่งตั้งยศ การขอพระราชทานยศ การปรับระดับเงินเดือน เงินเพิ่มและค่าตอบแทนต่าง ๆ รวมทั้งการจัดทำเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ บำนาญพิเศษ และบำเหน็จตกทอด โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งฐานข้อมูลภายในกองทัพบก และฐานข้อมูลจากหน่วยงานภายนอก โดยสามารถเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล Linkage Center ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ส่งผลให้ผู้มาติดต่อราชการ ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสารของทางราชการในการติดต่อ
โครงการระบบงานสิทธิกำลังพล กรมสารบรรณทหารบก เป็นการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนงานต่าง ๆ โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และให้กำลังพลกองทัพบก และครอบครัว ให้ได้รับสิทธิต่าง ๆ อย่างถูกต้อง รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการใช้ฐานข้อมูลกลางเดียวกัน ร่วมกับการเชื่อมโยงเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับระบบฐานข้อมูลกำลังพลอิเล็กทรอนิกส์ (PDX) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลกลาง ของกรมกำลังพลทหารบก เพื่อดำเนินงานด้านสิทธิกำลังพล ได้แก่ บำเหน็จประจำปี งานยศ และงานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นต้น
ศูนย์บริการกำลังพลแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) กรมสารบรรณทหารบก ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก โดยมุ่งเน้นในการดูแลสิทธิกำลังพล โดยเฉพาะในการติดตาม ตรวจสอบสิทธิ และการบริการกำลังพล จึงได้จัดตั้งศูนย์บริการกำลังพลแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กำลังพลกองทัพบก ที่เป็นข้าราชการนอกประจำการ และทายาทที่มาติดต่อราชการ ให้สามารถรับบริการด้านสิทธิต่าง ๆ ที่ดำเนินการโดยกรมสารบรรณทหารบก ได้เบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว
ทั้งนี้กรมสารบรรณทหารบก มีความมุ่งมั่นพัฒนาการทำงานเพื่อให้เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพ ทันสมัย ตามวิสัยทัศน์ของกรมสารบรรณทหารบกที่ว่า “กรมสารบรรณทหารบกเป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านสิทธิกำลังพลที่มีมาตรฐานสูงสุด”
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมีภารกิจที่สำคัญดังนี้ ด้านงานเลขานุการมีหน้าที่วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแลและดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านเลขานุการ การรับรอง และพิธีการต่าง ๆ สำหรับผู้บัญชาการทหารบก รองผู้บัญชาการทหารบก ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เสนาธิการทหารบก และผู้บังคับบัญชาชั้นสูงที่กองทัพบกมอบหมาย ตลอดจนการจัดทำคำขวัญ โอวาท คำปราศรัย และสาส์นของผู้บังคับบัญชา ด้านงานประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแล และดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกองทัพบก เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกองทัพบกในลักษณะเสนาสนเทศ ประชาสนเทศ และชุมชนสัมพันธ์ โดยปัจจุบันได้พัฒนาช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้มีความหลากหลายและทันต่อยุคสมัย นอกจากนี้ยังมีศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบกในการสร้างการรับรู้ และความเข้าใจอันดีแก่กองทัพบก รวมทั้งกำกับดูแลการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้บังคับบัญชาและกองทัพบก ด้านธุรการมีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านธุรการให้กับกำลังพล ทั้งนายทหารชั้นนายพล นายทหารสัญญาบัตร นายทหารชั้นประทวน ที่เป็นตำแหน่งประจำของกองทัพบก จำนวนกว่า 2,000 นาย ในแต่ละปีงบประมาณ นอกจากงานในภารกิจที่ได้กล่าวมาข้างต้น สำนักงานเลขานุการกองทัพบกยังมีหน้าที่รับผิดชอบศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารกองทัพบก โดยรับเรื่องราวร้องทุกข์ และร้องเรียน ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานและกำลังพลของกองทัพบกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในทุกมิติ ผ่านแอปพลิเคชัน SMART SOLDIERS ในการนี้ยังได้รับมอบหมายหน้าที่จากผู้บังคับบัญชาให้ดูแลและอำนวยความสะดวกงานของสมาคมแม่บ้านทหารบกให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมไปถึงสำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้นเพื่อเป็นสวัสดิการ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขช่วยเหลือข้าราชการและครอบครัว เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องในวันที่ 6 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ครบรอบปีที่ 70 โดยตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักงานเลขานุการกองทัพบก ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ และพร้อมก้าวสู่ปีที่ 71 ด้วยความภาคภูมิใจ ภายใต้การนำของ พลตรี อานุภาพ ศิริมณฑล เลขานุการกองทัพบก ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาหน่วยงานและกำลังพล ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามวิสัยทัศน์ของหน่วย “เป็นเลิศการประชาสัมพันธ์ มุ่งมั่นให้บริการ เชี่ยวชาญงานเลขานุการ สืบสานภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพบก” รวมทั้งยึดถือตามเจตนารมณ์ในการปฏิบัติงานของผู้บัญชาการทหารบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ “พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน” เพื่อนำพากองทัพให้พร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส