ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเสนาสนารามฯ เผยศพ “อิคคิว” เผาวันที่ 22 เม.ย. ขณะที่ ผบก.น.1 ระบุผลแพทย์พบคราบเขม่าดินปืนที่มือ “อิคคิว” ฝ่ายเดียว รวมทั้งหัวกระสุนอีก 1 หัวในศีรษะ ส่วนผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบ “จีจี้” เน็ตไอดอลสาวลงมารับ “อิคคิว” ขึ้นไปบนห้องช่วงเช้ามืด ก่อนแม่และเพื่อนจะมาพบศพในช่วงบ่ายของอีกวัน ไม่มีผู้อื่นเข้ามาอีก ด้าน ผบ.ตร.ติงให้ระวังเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เพราะมีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายอายุยังไม่ถึง 18 ปี

กรณี นตท.ภูมิพัฒน์ หรืออิคคิว ชัยวณิชยา อายุ 18 ปี นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 65 ลูกชายนายทหารยศพลเอกใช้ปืนยิง น.ส.สุพิชชา หรือ จีจี้ ปรีดาเจริญ อายุ 22 ปี เน็ตไอดอลสาวชื่อดังเสียชีวิตและยิงตัวตายตาม หลังมีปัญหาทำร้ายฝ่ายหญิงจนเลิกคบกันไปและกลับมาคบกันใหม่อีกครั้ง เหตุเกิดและพบศพที่ห้องเลขที่ 1678/78 ชั้น 14 คิว อโศก คอนโดมิเนียม ใกล้แยกอโศกเพชร ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ศพจีจี้ถูกนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระ ปฐมเจดีย์ราชวรวิหาร อ.เมืองนครปฐม ขณะที่ศพนตท.ภูมิพัฒน์ถูกนำไปตั้งศพที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ทนายของครอบครัวเผยว่า เบื้องต้นพ่อแม่อิคคิวได้พูดคุยกับพ่อแม่น้องจีจี้แล้วขอโทษกัน ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว ทั้งนี้คุณแม่น้องอิคคิวเตรียมที่จะออกมาชี้แจงและให้ข้อมูลผู้สื่อข่าวอีกครั้งเมื่อพร้อม เพราะยังตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีโดยกล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อสรุปสำนวนคดีที่กองพิสูจน์หลักฐาน และโรงพยาบาลรามาฯ สั่งการให้ชุดสืบสวนเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมที่สถานที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตรวจพบคราบเขม่าดินปืนที่มือนายภูมิพัฒน์ หรืออิคคิวที่ตรวจพบจากศพ ส่วนพ่อผู้ก่อเหตุเป็นนายทหารยศพลเอกมีชื่อเป็นเจ้าของปืนต้องเรียกตัวมาสอบเพื่อหาข้อมูลสำคัญได้ติดต่อไปแล้ว แต่รับแจ้งกลับมาว่าจะขอจัดงานศพลูกให้เสร็จก่อน ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ อยู่ระหว่างพูดคุยกับพนักงานสอบสวน ต้องรอเรียกมาสอบปากคำและพิจารณาคำให้การก่อน

พล.ต.ต.อัฏธพรกล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนทางสังคม ต้องอธิบายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.150 เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ พนักงานสอบสวนได้ทำจนครบถ้วนตั้งแต่รับแจ้งเหตุได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจปิดกั้นพื้นที่บริเวณชั้น 14 ของคอนโด เมื่อออกจากลิฟต์จะมีเจ้าหน้าที่คัดกรองทุกคนที่จะเข้าออก ผู้ที่จะเข้าที่เกิดเหตุได้ชุดแรกคือเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 คน ชุดที่ 2 เป็นทีมแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี 3 คน เข้าไปพร้อมกับพนักงานสอบสวน และตนซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน จากนั้นจึงชันสูตรพลิกศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ช่วยแพทย์เข้าไปห่อร่าง และตามให้ญาติพ่อหรือแม่เข้ามาดูศพเป็นชุดสุดท้าย ก่อนจะเคลื่อนร่างออกจากจุดเกิดเหตุ ส่วนพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุน 1 หัว และยังหาอีก 1 นัดที่ไม่เจอ ได้รับรายงานจากแพทย์ว่า พบหัวกระสุนฝังอยู่ที่ศีรษะนายภูมิพัฒน์ รวมถึงคราบเขม่าดินปืนที่มือนายภูมิพัฒน์ฝ่ายเดียวนำหัว กระสุนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ

ผบก.น.1 กล่าวอีกว่า ส่วนการขึ้นไปบนห้องพักของนายภูมิพัฒน์ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งการเข้าออกข้อมูลในคีย์การ์ดพบว่าช่วงเวลา 04.00 น. วันที่ 18 เม.ย. น.ส.สุพิชชาเป็นผู้มารับนายภูมิพัฒน์ขึ้นไปบนห้อง กระทั่งเวลา 13.30 น.วันที่ 19 เม.ย. แม่และเพื่อนของ น.ส.สุพิชชา มาพบศพ ช่วงเวลาตั้งแต่นายภูมิพัฒน์ขึ้นมาจนกระทั่งพบศพไม่ปรากฏภาพบุคคลอื่นเข้ามาในห้อง ขณะที่สภาพภายในห้องนอนที่แบ่งสัดส่วนไว้เป็นห้องนอนกั้นจากตัวห้องยังอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้น ส่วนประเด็นเรื่องเสียงปืนที่ข้างห้องไม่ได้ยิน เนื่องจากคอนโดดังกล่าวเป็นคอนโดระดับลักชัวรี มีการเก็บเสียงเป็นอย่างดี มีความเป็นไปได้ที่คนข้างห้องจะไม่ได้ยิน ทั้งนี้จะต้องเชิญผู้อาศัยข้างห้องเกิดเหตุมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

อีกด้านหนึ่ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และพล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ยืนยันเป็นไปตามข้อเท็จจริงของข่าวตั้งแต่ต้นว่ามีการเสียชีวิตคงพูดได้ชัดเจนแค่นี้ ได้พูดคุยกับ ผบช.น.มอบหมายสั่งการให้ ผบก.น.1 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวนเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดและความคืบหน้าในคดี เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนเรื่องที่พ่อแม่น้องจีจี้มีความเห็นกังวลว่าจะต้องมีใครผิดหรือไม่อย่างไร ขอเวลาให้ตำรวจได้สืบสวนสอบสวน ได้กำชับไปแล้วทั้ง ผบช.น.และ ผบก.น.1 ว่าจะต้องทำตรงไปตรงมาและมีข้อมูลจะต้องชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบทุกระยะ

เมื่อถามต่อว่าจะสามารถสรุปได้หรือไม่ว่าฝ่ายชายเป็นผู้ที่ทำให้มีการเสียชีวิต 2 ศพ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า จริงๆเป็นข้อมูลในเบื้องต้น แต่จากพยานยังเชื่อว่าเป็นแบบนั้นเชื่อว่าเข้าไปได้แค่ 2 คน ทั้งนี้ในคดีที่มีการกระทำผิดกฎหมายทางอาญาเกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นการละเมิด ฝ่ายพ่อแม่ผู้หญิงมีสิทธิที่จะฟ้องร้องทางแพ่งได้ ส่วนจะฟ้องร้องได้ขนาดไหนขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงต่างๆ เมื่อถามถึงการพกพาอาวุธปืนของเยาวชนที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ต้องดูความชัดเจนของทั้งสองฝ่าย การสอบปากคำเจ้าของปืน สอบปากคำพยานผู้ใกล้ชิดตั้งแต่เพื่อนคนใกล้ชิดน้องจีจี้สนามยิงปืน ภาพถ่าย รวมถึงข้อมูลทางโซเชียลต่างๆมาประกอบดูว่ามีการสนับสนุนหรือมีการส่งเสริมให้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องหรือไม่จะรีบสอบสวนให้ได้ความโดยเร็ว ส่วนการครอบครองได้หรือไม่ได้ต้องดูใบอนุญาต ทราบเบื้องต้นว่าไม่มีใบอนุญาตให้มีให้ใช้อาวุธปืน