
บรรยากาศชาวอเมริกันช็อปปิ้ง “แบล็ก ฟรายเดย์” ในหลายเมืองใหญ่ปีนี้พบว่าไม่คึกคักตามคาดการณ์ เนื่องมาจากผู้บริโภคยังไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในสหรัฐฯ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2565 ตรงกับวันศุกร์ “แบล็กฟรายเดย์” (Black Friday) เทศกาลช็อปปิ้งส่งท้ายปี ที่เริ่มต้นหลังวันขอบคุณพระเจ้า บรรดาผู้บริโภคชาวอเมริกันต่างออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าทั้งของใช้จำเป็นและของฝากของขวัญสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ปีนี้ ท่ามกลางภาวะรัดเข็มขัด และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับไม่คงที่ เนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในสหรัฐฯ
ทั้งนี้จำนวนคนออกมาช็อปปิ้งจับจ่ายสินค้าค่อนข้างบางตา ทั้งตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้าในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส และชิคาโก โดยหลายคนยอมรับว่า ปีนี้พวกเขาออกมาซื้อของที่จำเป็น ไม่ได้จับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด
ขณะที่บรรดาห้างค้าปลีก และร้านค้าต่างๆ พากันเตรียมรับมือการเปิดฤดูกาลช็อปปิ้งช่วงเทศกาล ด้วยการจัดโปรโมชั่นลดราคา หลังจากบรรดาธุรกิจค้าปลีกต้องเผชิญกับวิกฤติสินค้าขาดแคลน จากปัญหาห่วงโซ่อุปทานและการขนส่งที่ติดขัดในช่วง 2 ปีของการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้โรงงานต่างๆ ต้องปิดตัว
ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์จัดให้การช็อปปิ้ง 5 วันในช่วง “แบล็กฟรายเดย์” ซึ่งรวมไปถึง “ไซเบอร์ มันเดย์” เป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายสินค้าของผู้บริโภคของสหรัฐฯในแต่ละปี โดยตัวเลขการช็อปปิ้งในช่วง 2 เดือนระหว่างวันขอบคุณพระเจ้าและเทศกาลคริสต์มาส คิดเป็นตัวเลขถึง 20% ของยอดค้าปลีกรวมทั้งตลอดปี.