กองสลากฯเผยงวด 16 ส.ค. เพิ่มสลากดิจิทัลเป็น 9.1 ล้านใบ พบงวดก่อนคนเดียวซื้อถึง 3 พันใบ ไม่พบพฤติกรรมขายต่อเกินราคา พร้อมเปิดฟีเจอร์ร้านค้าผู้พิการงวดหน้า
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.65 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าการขายสลากดิจิทัลในงวดที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับดีมาก สามารถขายได้หมด 7.1 ล้านฉบับภายในไม่ถึง 2 วัน เร็วกว่าที่คาดไว้ โดยในงวดวันที่ 16 ส.ค.2565 ที่จะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. จะเพิ่มสลากดิจิทัลอีก 2 ล้านฉบับ รวมเป็น 9.1 ล้านฉบับ เป็นไปตามมติบอร์ดก่อนหน้านี้ ที่อนุมัติขายสลากดิจิทัล 20 ล้านฉบับภายในสิ้นปี 2565 นี้
“กองสลากฯ ยืนยันว่าสลากดิจิทัลทุกใบยังเป็นของรายย่อย ที่มาทำสัญญาขายกับสลาก รับสลากไปจำหน่ายคนละ 5 เล่ม แต่นำสลากมาฝากขายไว้บนแอพพลิเคชันเป๋าตัง ไม่ใช่กองสลาก เป็นคนขายเอง” นายลวรณ กล่าว
นอกจากนี้ สลากดิจิทัล ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ส.ค.2565 เป็นต้นไป ที่ประชุมสลาก ยังเห็นชอบให้เพิ่มฟีเจอร์ “ร้านค้าสลากผู้พิการ” ในแอพพลิเคชันเป๋าตัง โดยจะเป็นปุ่มให้ผู้ซื้อกดเข้าไปเลือกสลากจากร้านค้าผู้พิการได้โดยตรง ซึ่งขณะนี้ มีผู้พิการที่ขายสลากดิจิทัล คละรวมอยู่กับผู้ค้าปกติ ในงวดล่าสุด รวม 14,000 ราย ซึ่งในงวดต่อไปที่เพิ่มอีก 2 ล้านฉบับ เป็น 9.1 ล้านฉบับ ก็จะมีผู้ค้ารวม 18,000 ราย ก็จะเปิดให้ผู้พิการ มายืนยันตน เพื่อรวมขายผ่านฟีเจอร์ร้านค้าผู้พิการดังกล่าวได้ จึงจะทราบว่า มีผู้พิการขายสลากดิจิทัลเป็นจำนวนเท่าใด
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าการขายสลากดิจิทัล ยังไม่ส่งผลต่อการขายสลากแบบใบ ให้กลับมาที่ราคา 80 บาท ได้เร็ว เพราะสลากดิจิทัลที่ขายอยู่ยังมีสัดส่วนน้อยมาก แต่จะเริ่มเห็นผลเมื่อมีจำนวนขาย 10 ล้านใบขึ้นไป ซึ่งสลากจะนำมาประเมินภาพรวมอีกครั้ง
ทั้งนี้ ภาพรวมการจำหน่ายาลากดิจิทัลในงวดที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีการซื้อจำนวนมาก เพื่อไปขายต่อ หรือพบความผิดปกติ โดยมีจำนวนซื้อต่อรายเฉลี่ย 6-7 ใบเท่านั้น มีเพียง 1 รายที่ซื้อสูงสุด 3,000 ใบ และมีเพียง 2-3 รายที่ซื้อ 2,000 ใบ ส่วนที่เหลือมีประมาณ 1,000 ใบ ประปราย เท่านั้น ส่วนที่เหลือซื้อเลขชุดสูงสุด 7 ใบตั้งแต่เปิดจำหน่าย และกลุ่มดังกล่าวไม่ได้มีพฤติกรรมไปขายต่อ กองสลากตรวจสอบได้ทั้งหมดว่าใครซื้อซื้อไปเพื่ออะไร และกรณีที่อ้างว่ามียี่ปั๊วเร่งดึงสลากออกจากระบบเพื่อให้สลากใบขายเกินราคาได้ จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ซื้อสลากยังไม่ได้ผิดปกติ และไม่ได้มีผลอะไรขนาดนั้น
นายลวรณ กล่าวว่า กองสลากฯ เข้มงวดกับการตรวจสอบการนำสลากดิจิทัลไปขายต่อเกินราคา ซึ่งย้ำว่ายังไม่พบว่าผิดปกติใดใด ที่ผ่านมาตรวจสอบพบและดำเนินการจับกุมไปเพียง 2 รายเท่านั้น ทั้งนี้ กองสลากอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะต้องมีการกำหนดจำนวนซื้อสลากในแต่ละงวดต่อรายได้ไม่เกินกี่ใบหรือไม่ แต่ขอดูภาพรวมการขายสลากดิจิทัลไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนบทลงโทษกรณีพบผู้ขายเกินราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนจะไปห้ามไม่ให้กลับมาซื้ออีกคงไม่สามารถทำได้
นายลวรณ กล่าวว่า ในวันที่ 22 ก.ค.2565 กองสลากฯ จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ซื้อ-จอง สลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 314,152 รายชื่อ ซึ่งเป็นการคัดกรองจากผู้ที่ลงทะเบียนในปี 2565 รวมกว่า 910,339 ราย ซึ่งตรวจสอบแล้วผ่านคุณสมบัติ จากกระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง กองทุนการออมแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง และ ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรองกว่า 6 แสนราย จะเปิดให้มีการอุทธรณ์ภายใน 7 วัน จากนั้นในวันที่ 10 ส.ค.นี้ จะมีการสุ่มรายชื่อ 3 แสนราย ให้เหลือ 70,000 ราย เพื่อมีสิทธิ์ซื้อ-จองสลาก
ทั้งนี้ ในกระบวนการสุ่มรายชื่อ จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์โดยผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ช่วยตรวจสอบความโปร่งใส และจะมีผู้ดูแลซอฟแวร์จากคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเกษตรศาสตร์ รวมทั้งจะมีการถ่ายทอดผ่านเฟสบุ๊ก และ เชิญตัวแทนจากจังหวัดละ 3 คน โดยให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดคัดเลือดมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย และเริ่มทำรายการซื้อจองล่วงหน้าได้ ภายในเดือนก.ย. 2565
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เปิดให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสลากดิจิทัล เข้ารายงานตัวเข้ามารายงานตัวเพื่อ ทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยบรรยากาศการมาทำสัญญา เป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้ามาทำสัญญาขายสลากดิจิทัลในวันแรกกว่า 1,500 ราย จากทั้งหมด 4,500 ราย โดยจะทยอยเข้ามาทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 21-23 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ กองสลากจะทำสัญญาให้ได้รับสลากรายละ 5 เล่มต่องวดเพียงสัญญาเดียว และมีอายุสัญญาตั้งแต่งวดวันที่ 16 ส.ค.2565 – งวดวันที่ 1 มิ.ย.2566หากรายใดไม่มารายงานตัวเพื่อทำสัญญา ให้ถือว่าสละสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ
กหลังจากที่ผู้สมัครได้ทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลเรียบร้อยแล้ว จะต้องชำระเงินค่าสลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 ส.ค. 2565 ในระหว่างวันที่ 21-23 ก.ค. 2565 เป็นเงิน 35,200.00 บาท ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ทุกสาขา) หรือผ่านตู้กดเงินสด (ATM) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)