เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 พ.ย.2565 ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ป่านแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ปฎิบัติราชการ รอง.ผบก.ชลบุรี นายสุภาพ ศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ร่วมกันแถลงข่าวและรับมอบตัวปลัดอำเภอสัตหีบ คดีเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการพูลวิลล่า และเงินที่หยอดไว้ในตู้บริจาค กิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตามที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.)และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.)ได้เข้าควบคุมตัว นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ ตำแหน่ง ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองรักษาราชการแทนนายอำเภอสัตหีบ และนางสุภาพร ผิวเหลือง ตำแหน่ง พนักงานราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอสัตหีบ ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม2565 ที่ผ่านมานั้น จังหวัดชลบุรี ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาโดยตลอดได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับในกรณีนี้ในส่วนของคดีอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาในเบื้องต้นไปแล้ว จำนวน 2 รายและในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป.ได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัดชลบุรี แจ้งให้นายพันธวัจน์ ดาวัลย์ ปลัดอำเภอสัตหีบ มารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายจับของศาล เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการดำเนินการทางปกครองกับข้าราชการได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีคำสั่งให้นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ มาปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดชลบุรีแล้ว หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการทางวินัยต่อไป และได้แจ้งให้ข้าราชการของอำเภอสัตหีบและผู้เกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปท. อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องของการใช้ตู้ที่มีเครื่องหมายตราสภากาชาด ขอเรียนว่า ได้ตรวจสอบเบื้องต้นในขณะนี้ในกรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการของข้าราชการที่ถูกจับกุม โดยมิได้รับอนุญาตจากสภากาชาดไทยและสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรีแต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้ สภากาขาดไทยได้มอบให้นางสาวประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรีไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้วและกรณีของตู้อะคริลิคใสที่ปรากฎในข่าว สภากาชาดให้มีคำสั่งให้เลิกใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 แล้วในปัจจุบันตู้บริจาคที่ถูกต้องจะต้องเป็นตู้โลหะทึบ มีกุญแจล็อค มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการเปิด-ปิด และหากจะมีการขอรับบริจาคในนามของหน่วยงานของกาชาด จะต้องได้รับอนุญาตก่อนดำเนินการ และรายงาน ผลการรับบริจาคให้สภากาชาดไทยทราบ

ทั้งนี้ตนเองได้กำชับเน้นย้ำข้าราชการให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบกฎหมาย ห้ามไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบโดยเด็ดขาด หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางวินัย อาญา และทางปกครอง ในทันที และฝากเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนข้าราชการทุกท่านดูไว้เป็นตัวอย่างว่าทำอะไรไว้ไม่ดี ไม่มีทางหนีพ้นไปได้ และสิ่งที่ตามมามันเกิดความเสียหาย หากนิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง ส่วนตัวเชื่อว่าส่วนใหญ่ข้าราชการยังดีอยู่มาก คนไม่ดีก็ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้ ถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่นศรัทธาในระบบราชการก็อยู่กันไม่ได้ประเทศนี้ ยอมรับว่าเรื่องนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการฝ่ายปกครองเป็นอย่างมากและในปัจจุบันจังหวัดชลบุรีจะพิจารณายกเลิกการมอบหมายให้นายอำเภอท้องที่เป็นผู้รับแจ้ง กรณีห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง ผู้เข้าพักไม่เกิน 20 คน กลับมาเป็นอำนาจของนายทะเบียนโรงแรมประจำจังหวัด(ผู้ว่าราชการจังหวัด) ทั้งนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการเรียกรับเงินหรือการขอรับบริจาคที่ผิดปกติและไม่เป็นไปตามกฎหมายขอให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หมายเลขโทรศัพท์ 038-278-370

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ป่านแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ กล่าวว่า ภายหลังได้มีการจับกุมปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองรักษาราชการแทนนายอำเภอสัตหีบและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วเราได้สืบสวนขยายผลต่อโดยได้ประสานงานกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จนสืบสวนเพิ่มเติมตามพยานหลักฐานพบว่า มีปลัดอำเภอ ผู้กระทำความผิดอีกหนึ่งท่าน วันนี้ท่านผู้ว่าฯได้นำตัวมามอบให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ ทำให้เจ้าหน้าที่ ของ ปปป. และ ปปท.ทำงานง่ายขึ้น และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและยืนยันว่าจังหวัดและเจ้าหน้าที่จะดำเนินการกับผู้ถูกกล่าวหาอย่างตรงไปตรงมาโดยเรื่องนี้ขอนำเรียนว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับองค์กรต้องแยกแยะ ที่ผ่านมาเราพยายามปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงมีคนกลุ่มน้อยกระทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ท่านผู้ว่าบอกเนื้อไม่ดีเนื้อร้ายก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย หลังจากนี้จะพาผู้ถูกกล่าวหาไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจและนำไปสอบสวนเพิ่มเติมต่อที่ กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ต่อไป