พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. สั่งการให้พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 บช.ปา.นำกำลังจับกุมนายอิลฮัม หม๊ะมะเซ็ง แก๊ง ส่งยาเสพติดผ่านระบบ Logistic ตามนโยบาย ผบ.ตร.

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. สั่งการให้พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 บช.ปา.นำกำลังจับกุมนายอิลฮัม หม๊ะมะเซ็ง อายุ 19 ปี ในข้อหาจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พร้อมของกลางยาบ้า 330,000 เม็ด จับได้ที่บ้านเลขที่ 204/1 ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.สรายุทธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกลางปี 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.4.บช.ปส.ได้จับกุมแก๊งค้ายาเสพติดส่งทางพัสดุไปรษณีย์ จากพื้นที่ชั้นในไปยังภาคใต้ จึงได้รวมกันสืบสวนขยายผล เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ที่ส่งยาเสพติดผ่านระบบ Logistics ในพื้นที่ภาคกลาง ไปยัง จ.นราธิวาส ก่อนจะส่งต่อไปยังต่างประเทศ จนกระทั่งสืบทราบว่า แก๊งยาเสพติดดังกล่าว จะส่งยาเสพติดทางพัสดุ ไปยังบ้านเลขที่ 204/1 ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. จึงไปเฝ้ารอ พบนายอิลฮัม ผู้ต้องหากำลังยืนรอรับเมื่อพัสดุไปส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบพบพัสดุทั้ง 2 กล่อง พบยาบ้ากล่องละ 110,000 เม็ด รวมยาบ้า 220,000 เม็ด จึงหด้ยึดไว้เป็นของกลาง สอบถามนายอิลฮัม ยอมรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากเครือข่ายยาเสพติดให้มารอรับยาบ้าที่ส่งมาทางพัสดุ เมื่อรับแล้วให้นำไปวางไว้ริมแม่น้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย แล้วจะมีผู้มารับไปอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน เป็นรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ สีเทา ทะเบียน กต 6531 ปัตตานี เงินฝาก 1 บัญชี รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 1,000,000 บาท จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 เพื่อสืบสวนขยายผลกับ ผู้ร่วมขบวนการต่อไป โดยเครือข่ายนี้ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายส่งเฮโรอีนและไอซ์ ไปยังต่างประเทศ สำหรับการสกัดกั้นจับกุมการส่งยาเสพติดทางระบบ Logistic ทั้งการสกัดกั้นการลำเลียงทางบก ทางท่าเรือ ทางท่าอากาศยาน และการส่งยาเสพติดทางพัสดุไปรษณีย์ ของ บช.ปส. เป็นไปตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่สั่งการให้สกัดกั้น ทำลายเครือข่ายของผู้ค้ายาเสพติดในทุกมิติ โดย บช.ปส. ได้ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force หรือ SITF) และ โครงการเครือข่ายหน่วยงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากล ในอาเซียน (ASEAN Airport Interdiction Task Force หรือ AITF) โดยในเดือน ตุลาคม 2565 สามารถจับกุมยาเสพติดที่ส่งผ่านท่าเรือ ท่าอากาศยาน และทางพัสดุไปรษณีย์ ได้แก่ เฮโรอีน 18 กก. ไอซ์ 39.3 กก. ยาอี 6,000 เม็ด ยาบ้า 11 เม็ด โดยที่ผ่านมาแก๊งส่งยาเสพติด จะซุกซ่อนยาเสพติดในรูปแบบต่างๆ เช่น ซุกซ่อนในเครื่องใช้ไฟฟ้า ในกล่องใส่เสื้อผ้า ในซองอาหารสำเร็จรูป ในซองเครื่องดื่มสำเร็จรูป ในถังสี ฯลฯ สำหรับประเทศที่จะมีการส่งยาเสพติดไป ได้แก่ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ฮ่องกง เยอรมันและอิสราเอล เป็นต้น