ลพบุรี-ร้องผู้รับเหมา เบี้ยวค่าแรงทำแก้มลิง 4 ล้าน โอดมีทหารบอกได้เงินแน่ แต่เช็กเด้ง โทรทวงสาวที่เซ็นเช็ก บอกฆ่าให้ตายก็ไม่มีจ่าย

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2565 ที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหายจากการถูกผู้รับเหมารับเบี้ยวเงินค่าจ้างทำงานโครงการแก้มลิงของโครงการชลประทานลพบุรี นำโดยนายนพดล สิทธิศรี อายุ 62 ปี อดีตกำนันตำบลวังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท ได้เข้าร้องเรียนว่า พวกตนได้นำเครื่องจักรกลหนัก พร้อมรถบรรทุก รถเกรด รถไถ กว่า 50 คัน คนงานอีกกว่า 60 คน เข้ามารับจ้างดินขุดพื้นที่บริเวณบ้านหนองคู ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเป็นแก้มลิง อยู่ในพื้นที่ของศูนย์การบินทหารบก ต.เขาพระงาม อ.เมือง ลพบุรี

นายนพดล กล่าวต่อว่า การว่าจ้างงานดังกล่าวเป็นงานโครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน รายการแก้มลิงบ้านหนองคู หน่วยงานที่ดำเนินการคือ กองทัพภาคที่ 1 โดยกองพลพัฒนา 1 วันเริ่มต้นโครงการ วันที่ 19 ม.ค. 2565 วันสิ้นสุดโครงการ 17 มิ.ย. 2565 รวมระยะเวลาดำเนินการ 150 วัน

นายนพดล กล่าวอีกว่า พวกตนมาขอความเป็นธรรม ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการของหน่วยราชการ และหน่วยดำเนินการก็เป็นหน่วยงานราชการเช่นกัน ซึ่งพวกตนมั่นใจได้ว่าเป็นงานรับจ้างที่ดี ได้ค่าจ้างตามสัดส่วนการจ้างแน่นอน โดยพวกตนได้ซับคอนแทรค (ผู้รับจ้างงานช่วง) มาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด นครภานุรุจก่อสร้าง เลขที่ 404 หมู่ที่ 1 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี น.ส.ณัฐกฤดา วัฒนานนท์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมูที่ 2 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ว่าจ้าง

“หลังจากทำงานได้ขอเบิกเงิน แต่ทางบริษัทฯ ได้จ่ายให้มาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความมั่นใจ เนื่องจากได้รับการยืนยันจากนายทหารที่มาคุมโครงดังกล่าวว่า ให้เร่งทำงานให้แล้วเสร็จตามวันเวลากำหนด รับรองว่าได้เงินแน่นอน หลังจากนั้นพวกตนก็เร่งระดมหาทุนเติมน้ำมัน จ่ายค่าแรงลูกน้องรายวัน”

นายนพดล กล่าวอีกว่า กระทั่งทำงานแล้วเสร็จตามระยะเวลา จึงขอเบิกเงินจาก หจก.ดังกล่าว โดยทางบริษัทได้สั่งจ่ายเป็นเช็กเงินสด จำนวน 12 ใบ รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ให้กับกลุ่มของพวกตน โดย น.ส.ณัฐกฤดา วัฒนานนท์ ผู้ว่าจ้าง เป็นผู้เซ็นเช็กธนาคารกรุงไทย สาขาทุ่งสง ให้เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2565 แต่เมื่อพวกตนนำเช็กไปขึ้นเงินปรากฏว่าทางธนาคารปฏิเสธการจ่าย ไม่สามารถเบิกเงินได้ จึงโทรทวงถามกับ น.ส.ณัฐกฤดา แต่แม่ของ น.ส.ณัฐกฤดา รับสาย แล้วตอบมาว่า “ถึงฆ่าให้ตายก็ไม่มีเงินจ่ายให้”

นายนพดล กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น วันที่ 13 ก.ค. 2565 พวกตนได้เดินทางไป สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พบกับ ร.ต.อ.พายัพ รุ่งหัวไผ่ พนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินดี พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ให้คำแนะนำเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเป็นอย่างดี

นายนพดล กล่าวอีกว่า ตนต้องการให้ น.ส.ณัฐกฤดา ผู้ว่าจ้าง จ่ายเงินค่าจ้างที่ติดค้างกว่า 4 ล้านบาท ให้กับพวกตน เพราะทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากการกู้หนี้ยืมสินเขามาทำงาน เพื่อหวังจะได้เงินมาจุนเจือครอบครัว บางรายต้องตัดใจปล่อยรถหลังจากถูกบริษัทไฟแนนซ์เร่งรัด บางรายต้องจำใจขายเครื่องมือทำมาหากินนำเงินใช้หนี้ที่กู้ยืมมา อยากวิงวอนขอร้องให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ และหน่วยงานดำเนินการโครงการฯ ที่มีศักยภาพได้ยื่นมือช่วยเหลือพวกตนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผู้ว่าจ้างรายนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน พร้อมรายชื่อผู้ได้รับความเดือดร้อน และเอกสารประกอบการร้องเรียน กับนายธานี แสงสง่า ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมลพบุรี ซึ่งรับปากจะเร่งรัดส่งหนังสือด่วนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือและคู่กรณี เพื่อขอเจรจาให้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้ร้อง โดยกลุ่มผู้เสียหายไม่ต้องการดำเนินคดี ขอเพียงเงินที่พึงจะได้