ราชบุรี-หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี พยายามขอคืนดีอดีตเมียแต่กลับมีปากเสียงกับผัวจนถูกมีดแทงจนเสียชีวิตสยองหน้าโบสถ์วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองโอ่งก่อนหลบหนีไป ล่าสุดเข้ามอบตัวกับรรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี
ร.ต.อ.วันชัย พุฒเอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 ต.ค. 2565 มีคนให้อาวุธมีดแทงกันตาย บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดช่องลม พระอารามหลวง ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1 ราย หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม จนท.ชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี และ จนท.มูลนิธิราชานุสรณ์ ราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบร่างของ นายอำนาจ อึ่งสว่าง อายุ 51 ปี อยู่ ต.พงสวาย อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี นอนหายใจรวยริน จนท.กู้ชีพ รพ.ราชบุรี จึงเร่งทำการ CPR ปั๊มหัวใจเป็นการเร่งด่วน แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ทำให้ นายอำนาจ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยสภาพศพถูกแทงที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย 2 แผล บริเวณหน้าท้อง 1 แผล จนไส้ทะลัก และบริเวณศีรษะ 1 แผล จนท.ตำรวจจึงประสาน จนท.พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี และแพทย์เวร รพ.ราชบุรี เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ และนำศพส่งศูนย์นิติเวช รพ.ราชบุรี เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต ใกล้กับศพยังพบอาวุธมีดหัวตัดยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 เล่ม
นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุมนทา สินทรัพย์เพิ่ม อายุ 42 ปี ชาว ต.พงสวาย อดีตภรรยาของผู้เสียชีวิต จนท.กู้ชีพ รพ.ราชบุรี จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ราชบุรี โดยพบลูกชายของผู้บาดเจ็บอายุ 24 ปี และอายุ 14 ปี ยืนรอให้การกับทาง จนท.ตำรวจ โดยให้การว่า เมื่อช่วงเย็น นายอำนาจ ผู้ตายซึ่งเป็นพ่อ ได้มาขอคืนดีกับ น.ส.สุมนทา ผู้เป็นแม่ โดยมี นายทนงค์ พยัคฆ์ อายุ 55 ปี อยู่ที่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้ก่อเหตุและเป็นแฟนใหม่ของแม่ยืนเคลียร์อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามขณะผู้เป็นแม่กับผู้เป็นพ่อเคลียร์กันอยู่ ได้เกิดมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ จนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน จากนั้น นายทนงค์ จึงใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาแทงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุ นายทนงค์ ได้หลบหนีไปทางหลังวัดช่องลม ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ในเหตุการณ์และกำลังช่วยทางวัดเตรียมงานกฐิน จึงใช้มีดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุขู่ให้ นายทนงค์ หยุดจ้วงแทงผู้เป็นพ่อ แต่ผู้ก่อเหตุไม่กลัว และยังคงจ้วงแทงผู้เป็นพ่อจนล้มลงไปต่อหน้าต่อตาตนกับน้อง ขณะที่ผู้เป็นแม่ได้พยายามเข้าไปช่วยผู้เป็นพ่อจึงถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ก่อนที่ นายทนงค์ ผู้ก่อเหตุจะวิ่งหลบหนีไปทางหลังวัด
นายณัฐพล อินทรภิรมย์ อายุ 35 ปี ช่างที่มาช่วยงานในวัดและอยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ตนและ พนง.ในวัดกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ ในงานทอดกฐินของวัด ซึ่ง นายอำนาจ ผู้ตาย และ นายทนงค์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งทั้งคู่เคยเป็นอดีตพนักงานในวัด ได้นัดมาเคลียร์ใจกันในเรื่องรักสามเส้ากับ น.ส.สุมนทา ผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณที่หน้าโบสถ์ จนช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. เกิดการโต้เถียงกันขึ้นและชกต่อยกัน พอตนหันไปดูอีกทีก็พบว่า นายอำนาจ นอนได้รับบาดเจ็บไปกับพื้นแล้ว ส่วน นายทนงค์ ผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุเสร็จได้วิ่งหลบหนีออกไปทางประตูข้างวัด
เบื้องต้น จนท.ตำรวจ ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญลูกชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองราชบุรี ทั้งให้ จนท.ชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ไปสอบปากคำ น.ส.สุมนทา ที่รพ.ราชบุรี เพื่อหาข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุ และให้ จนท.ชุดสืบสวนอีกชุดเร่งติดตามจับกุมตัว นายทนงค์ ผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 19 ตุลาคม 2565 นายทนงค์ ผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อเข้าขอมอบตัวกับ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี โดยให้การว่า ระหว่างเคลียร์ปัญหารักสามเส้ากับผู้ตาย ซึ่งเป็นอดีตคนรักเก่าของแฟน ได้เกิดเถียงกันรุนแรง และผู้ตายได้เข้าทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บ จึงเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธมีดที่ติดตัวมาจ้วงแทงจนผู้ตายเสียชีวิต.