ลุงตู่ได้ไปต่อ ต่อลมหายใจได้บริหารประเทศ!ศาลรธน.เสียงข้างมาก มีคำวินิจฉัย ปม ‘ประยุทธ์’ นายกฯ 8 ปี เริ่มนับปี 2560 ตั้งแต่ 6 เม.ย.2560 วันประกาศใช้รธน.
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 ก.ย.2565 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ ว่า กรณีจึงมีปัญหาพิจารณาว่าจะถือว่าครม. ซึ่งมีผู้ถูกร้องเป็นนายกฯ บริหารก่อนวันประกาศใช้รธน.ปี 60 นั้นเป็นครม.ตามรธน.ปี 2560 ด้วยหรือไม่
วิเคราะห์เห็นว่ารธน.ปี 60 มาตรา 264 วรรคหนึ่งเป็นบทบัญญัติมี 2 ประการ ให้บทบัญญัติต่อเนื่องของครม. แม้จะถูกร้องจะเป็นรธน.ฉบับอื่นก่อนใช้รธน.ปี 60 แต่เมื่อรธน. 60 ประกาศใช้ 6 เม.ย.2560 แล้ว ต้องถือว่าครม.ซึ่งแม้จะเข้าสู่รธน.ฉบับอื่นก็ตาม ย่อมเป็นรธน.ปี 60 ตั้งแต่ 6 เม.ย.2560 วันประกาศใช้รธน.
ประการที่ 2 เพื่อนำกฎเกณฑ์มาใช้แก่ครม.ที่มีอยู่ก่อน เป็นไปตามหลักทั่วไปตามการบริหารอยู่ก่อนวันประกาศรธน.ใหม่นี้ ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่ประกาศ ยกเว้นมีบทเฉพาะกาลที่ไม่ให้นำมาใช้กับครม. มาตรา 264 วรรคสอง ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวยกเว้นบางเรื่องเท่านั้น ดังนั้น หากไม่มีบทบัญญัติเรื่องใด ก็ต้องเป็นไปตามรธน.ปี 60
จึงเป็นไปตามหลักทั่วไปของการใช้กฎหมาย มีผลบังคับใช้ 6 เม.ย. 2560 ย่อมมีความหมายว่าทุกบทบัญญัติของรธน.มีผลบังคับ ไม่ว่ากรณีใด เมื่อรธน.60 ใช้บังคับ ทุกอย่างต้องเริ่มทันที ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ดังนั้น 8 ปีเริ่มนับงันที่รนธ.60 ใช้
วินิจฉัยได้ว่าผู้ถูกร้องซึ่งเป็นนายกฯ ซึ่งบริหารก่อนรธน.นี้เป็นนายกฯ ตามมาตรา 158 วรรคสี่ของรธน.นี้ด้วย ศาลมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าความเป็นนายกฯ ไม่สิ้นสุดลงตามรธน.ปี 2560 ตามมาตรา 170 วรรคสองและ158 วรรคสี่ จึงให้ยกคำร้องดังกล่าว และให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป