ตำรวจไซเบอร์รวบ “ก้อย บางแค” ขายหวยเถื่อนออนไลน์ เอี่ยวเครือข่าย “ลาวพัฒนาเฮียมหาเฮง” ฟันรายได้เกือบครึ่งแสนต่อเดือน 

สืบเนื่องจาก สายตรวจไซเบอร์ของ บช.สอท. ได้ตรวจพบเฟซบุ๊กชื่อ “ก้อย บางแค” ได้โพสต์ข้อความลงในหน้าโปรไฟล์ส่วนตัวลักษณะชักชวนคนทั่วไปให้ซื้อสลากกินรวบ (หวยลาว) ซึ่งออกรางวัลทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์และหวยไทยซึ่งออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน โดยอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูง ตัวอย่างเช่น “มาแล้วจ้า 150 ลุ้นรับ 100,000 บาทจ้า จองใต้โพสค่ะ”

จากการสืบสวน พบพฤติการณ์ว่าผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊คชื่อ “ก้อย บางแค” ได้ขายหมายเลขบัตรหวยใต้ดินดังกล่าวใช้ชื่อว่า “บ้านเศรษฐี ทวีทรัพย์” โดยขายหมายเลขบัตรเป็นใบ แต่ละใบมีเลข 3 ตัว คิดราคาใบละ 150 บาท หากลูกค้าซื้อหมายเลขได้ตรงกับเลขท้ายรางวัลที่ 1 ของงวดนั้น ก็ถือว่าเป็นผู้ถูกรางวัล

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลแขวงนครปฐม เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย กระทั่ง พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผกก.ฯ ช่วยราชการ กก.2 บก.สอท.4 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นศาลแขวงนครปฐม ที่ ค.27/2568 ลง 21 ต.ค. 68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู ในซอย 7 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม

จากการเข้าตรวจค้น พบน.ส.สิราวรรณ หรือ ก้อย อายุ 30 ปี พักอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งภายในมีข้อมูลการโพสต์ขายหวยออนไลน์กับลูกค้า และติดต่อกับแอดมินหวยออนไลน์ (เจ้ามือ)

เบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับว่า ตนเองเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก “ก้อย บางแค” จริง ตนมีอาชีพค้าพระเครื่องออนไลน์ ต่อมาอยากหารายได้เสริม จึงได้หาข้อมูลจากทางเฟซบุ๊กแล้วได้พบกับเฟซบุ๊กแม่ข่ายเครือข่าย “ลาวพัฒนาเฮียมหาเฮง” จากนั้นได้ติดต่อสอบถามเพื่อติดต่อเอามาขาย อีกทั้ง ตนเองทำแผงพระออนไลน์มีผู้ติดตามหลายหมื่นคนอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะง่ายในการหาลูกค้า โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ได้ผลตอบจากการขายประมาณ 30,000-50,000 บาทต่อเดือน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนขยายผลไปยังเจ้ามือ ผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป