
รองนายกฯ “โสภณ” ประชุมบอร์ด สสส. นัดแรก ยันรัฐบาลไม่คิดแก้ กม.หาเงินจากธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติด-อุบัติเหตุ กำชับหน่วยงาน “พรบ.-ระเบียบ” จุดไหนเป็นอุปสรรคต้องเร่งแก้ “รมว.พัฒนา” ชื่นชม สสส. สร้างองค์ความรู้สุขภาพเข้าถึง ปชช. ลดภาระค่าใช้จ่าย สธ.
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในการประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 8/2568 ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ว่า ปัญหาทางสุขภาพมี 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1.ปัญหาที่เกิดโดยธรรมชาติของสังขาร โรคภัยไข้เจ็บที่ห้ามไม่ได้ สิ่งนี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และการลงทุนมหาศาล ซึ่งอาจยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดในสังคม 2. ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมและสุขนิสัยของคน
อาทิ กลุ่มโรค NCDs โรคซึมเศร้า ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น เหล่านี้เป็นภารกิจที่ สสส. และหน่วยงานด้านสาธารณสุขจะต้องมาตีโจทย์ และจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหา หากในประเด็นใดที่กฎหมายระเบียบ หรือพระราชบัญบัญติต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน หากสามารถแก้ไขได้ต้องเร่งดำเนินการ และอยากให้ สสส.ใช้องค์ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ บูรณาการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานสร้างเสริมสุขภาพเกิดความต่อเนื่องและขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ
“แม้รัฐบาลนี้จะมีวาระจำกัด แต่เป้าหมายสำคัญคือการวางรากฐานให้กับบ้านเมือง หากกฎหมายใดที่เป็นอุปสรรคก็นำเสนอมาได้เลยผมพร้อมนำเข้าสู่กระบวนการเพื่อแก้ไขให้เกิดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด อุบัติเหตุนั้น ผมในฐานะที่ต้องสูญเสียคนที่รักจากอุบัติเหตุเข้าใจถึงปัญหาและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในส่วนของปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังระบาดโดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชนนั้น ขอยืนยันว่า จุดยืนของรัฐบาลชุดนี้ไม่คิดหารายได้จากธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า” นายโสภณ กล่าว
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับงานสร้างเสริมป้องกันสุขภาพ โดยเฉพาะการเสริมทักษะความรอบรู้ด้านสุขภาพ หรือ Health Literacy ให้ประชาชนมีองค์ความรู้ในการดูแลตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ และนโยบายการเพิ่มจำนวนประชาชนที่มีคุณภาพ มีความสมบูรณ์แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและใจ สอดคล้องกับนโยบายของท่านรองนายกฯ เชื่อว่าจะร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมได้ในระยะเวลาอันสั้นของรัฐบาล โดยเฉพาะ Health Literacy กระทรวงสาธารณสุขมีองค์ความรู้จำนวนมาก
แต่ยอมรับว่าข้อมูลการสื่อสารทางการแพทย์ที่ผ่านมาเมื่อนำเสนอไปแล้ว ประชาชนอาจเข้าใจได้ยาก ดังนั้น ต่อไปจะปรับการนำเสนอให้น่าสนใจและน่าติดตาม สื่อสารให้เหมาะสมกับทุกช่วงวัยยิ่งขึ้น เพื่อปลูกฝังองค์ความรู้ในการดูแลตนเอง ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ สสส. ทำได้ดีในหลายเรื่อง สามารถกระจายข้อมูลไปสู่ชุมชน เข้าถึงทุกกลุ่มวัย ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขจำนวนมาก ดังนั้น สธ. ยินดีให้ความร่วมมือเพื่อร่วมกันสร้างเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนไทยทุกระดับ