เมื่อวันที่  14 มี.ค.68 เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.นที  มีสุขศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณสะพานหนองหาร รอยต่อระหว่าง ม.1 กับ ม.2 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี มีเจ้าหน้าที่ได้รับบัตรเจ็บหลายนาย จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนจะนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญา อู่ตะเภา ผกก. เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดเส้นทางดังกล่าวไว้ชั่วคราวและพบเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนายจึงรีบลำเลียงส่งโรงพยาบาลแม่ลาน จำนวน 9 นาย

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์ของเจ้าที่จำนวนสามคันล้มอยู่ริมถนน  และพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณใต้โคนเสาไฟฟ้าริมทางติดกับคอสะพาน มีร่องรอยถูกแรงระเบิดจนเป็นหลุมกว้าง 30 ซม. นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนระเบิด และสะเก็ดระเบิด กระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ปัตตานี 22 สภ.แม่ลาน ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังจำนวน 9 นายใช้รถยนต์กระบะหุ้มเกาะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน เป็นพาหนะในการออกลาดตระเวนเส้นทาง หลังจากได้ปฏิบัติภารกิจคุ้มครองครูส่ง ที่โรงเรียนบ้านคูระ และในขณะที่ลาดตระเวนเส้นทางรับผิดชอบเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชน ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องแบบเร่งด่วน น้ำหนักประมาณ 10 กก.ที่ซุกไว้ใต้โคนเสาไฟฟ้า จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างกระเด็นคนละทิศคนละทาง และมีเจ้าหน้าที่บางนายอึดใจสู้หาที่กำบังและคุ้มกันเจ้าหน้าทีเพื่อลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยหลังเกิดเหตุผู้บริหารโรงเรียนบ้านคูระต้องหยุดการเรียนการสอนทันทีและให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับ

ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี  500 เมตรและตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทุกจุด ที่คาดว่าน่าจะเป็นพื้นที่หลบซ่อนตัว เชื่อว่ามีแนวร่วมในพื้นที่ให้การช่วยเหลือ ขณะที่ พ.ต.อ.ปัญญา  อู่ตะเภา ผกก. ได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ว่าตรงกับคนร้ายกลุ่มใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายที่เกิดเหตุ เป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.หนองจิก คาดว่าเป็นกลุ่มของ นายอับดุลเลาะ มะแด ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเป็นแกนนำในการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่