น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง (H.E. Mr. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรม Delfines Hotel Lima ประเทศเปรู

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับจีน ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบเอเปค ซึ่งไทยยินดีสนับสนุนจีนเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี พ.ศ. 2569 และพร้อมให้การต้อนรับประธานาธิบดีและภริยา ในโอกาสงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์จีน-ไทย ครบรอบ 50 ปี ในปีหน้านี้ซึ่งถือเป็นปีทองของมิตรภาพไทย-จีนอีกด้วย

ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และกล่าวต่อไปว่า “จีน-ไทยมีมิตรภาพที่มีความพิเศษยิ่ง เรามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกระดับ มาอย่างยาวนาน ซึ่งเชื่อว่าความสัมพันธ์ จีน-ไทย ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่ลึกซึ้ง และจะยิ่งมากขึ้นไปอีก 50 ปี  โดยจีนและไทยจะขยายความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และการศึกษา รวมทั้งวิทยาการใหม่ๆ ทั้งด้าน วิทยาศาสตร์  อวกาศ  นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล  ซึ่งเชื่อว่าจะนำความเจริญรุ่งเรือง ให้กับทั้งสองประเทศและภูมิภาคได้”

น.ส.แพทองธาร กล่าวชี่นชมการพัฒนาด้านต่างๆของจีน รวมทั้ง นโยบายกำลังผลิตคุณภาพใหม่ (new quality productive force) ที่ทำให้จีนรุดหน้าอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพัฒนาด้านต่างๆของประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมโลกาภิวัฒน์ ด้วยการค้าเสรีที่เปิดกว้างขึ้นโดยยึดมั่นในกฎกติกาของโลก

“ประเทศไทยพร้อมที่จะแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ประสบการณ์การแก้ปัญหาความยากจนที่ประเทศจีนเคยประสบมาในอดีต รวมไปถึงนโยบายในการต่อสู้กับภัยธรรมชาติ   เทคโนโลยีการผลิตคุณภาพใหม่ เทคโนโลยีอวกาศ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต รถยนต์ EV   รวมไปถึงพลังสะอาดด้านอื่นๆ นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมที่จะร่วมมือภายใต้แนวคิด Global Civilization Initiative (GCI) ที่จะส่งเสริม softpower  เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างกัน และขอขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่หรือ “BRICS” อีกด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ได้กล่าวยืนยันสนับสนุนไทยให้ไทยเป็นสมาชิก “BRICS” รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในทุกระดับทั้ง การประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) การประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) รวมทั้งพร้อมร่วมมือสาขาใหม่ๆ ระหว่างกัน เช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ จีนยังยินดี นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทย และพร้อมขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านการศึกษา เยาวชน และการเชื่อมโยงระหว่างภาคประชาชน รวมทั้งการแก้ปัญหาอาญชญากรรมข้ามแดน และภัยออนไลน์ ต่างๆ ด้วย

นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้วจากกรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานในไทยที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ ถือเป็นสิริมงคลยิ่งของคนไทยที่มีโอกาสได้สักการะ และวันนี้คนไทยยังตี่นเต้นที่จีนจะมอบ แพนด้ายักษ์ มาประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งเพี่อเป็นสัญลักษณ์ในโอกาส ครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีนในปีหน้านี้ด้วย