“พ่อเลี้ยงหล้า” ร่วมคณะธรรมทูตไทยมอบ “องค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ประดิษฐานวัดธรรมเฮวุนเมียนมา พร้อมมอบข้าวสาร อาหาร – เดินหน้าแผนเสนอชื่อบุคคลสำคัญโลกยูเนสโก
นายอัครเดช ตาสะหลี “พ่อเลี้ยงหล้า” CEO – ประธานกรรมการ / President & CEO บริษัทแม่สอดฟรีโซน จำกัด นักธุรกิจสายบุญ ผู้ประกอบการ ท่าข้ามแม่สอดฟรีโซน ริมแม่น้ำเมย บริษัทแม่สอดฟรีโซน จำกัด ร่วมทำบุญใหญ่ถวายรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย พร้อมมอบข้าวสาร อาหาร ที่วัดธรรมเฮวุน (ตะมะเฮโวน) เมืองพญาตองซู สหภาพเมียนมา
โดย นายอัครเดช ตาสะหลี “พ่อเลี้ยงหล้า” CEO – บริษัทแม่สอดฟรีโซน ได้ร่วมกับคณะธรรมทูต และผู้แทนมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา อัญเชิญชุดประกาศเกียรติคุณ ชุดพระไตรปิฎก(ฉบับภาษาไทย-บาลี) และประดิษฐานองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยที่วัดธรรมเฮวุน (ตะมะเฮโวน) เมืองพญาตองซู สหภาพเมียนมา ด้วยกระบวนการธรรมฑูต พร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้งและปัจจัยจำนวนหนึ่งโดยมีหลวงพ่อญานอ บาตะ เจ้าอาวาสวัด เป็นผู้รับมอบ
โดยกิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องในการหนุนเสริมการเผยแพร่และประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งเป็นแผนแม่บทของรัฐบาล ซึ่งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา คณะผู้ทำหน้าที่ด้วยกระบวนการธรรมทูตได้อัญเชิญ “องค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ไปประดิษฐานที่วัดคงคาราม กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยนายอุปกิต ปาจรียางกูร หัวหน้าผู้แทนผู้ทำหน้าที่กระบวนการธรรมทูต สายประเทศศรีลังกา เมียนมา และ ลาว เป็นผู้อำนวยการ ประสานงานและสนับสนุน เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่นายอุปกิต ปาจรียางกูร นายอัครเดช ตาสะหลี และนายธีระพจน์ รัตนเสถียร เป็นผู้อำนวยการ ประสานงานและสนับสนุน
ทั้งนี้แผนแม่บทการเสนอยกย่องครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลกถูกบรรจุเป็นแผนแม่บทของรัฐบาลมาตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีกระทรวงวัฒนธรรมรับผิดชอบ ดำเนินการคืบหน้าต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และสิ่งที่จะดำเนินการต่อจากนี้คือ การเขียนข้อมูลตามแบบฟอร์ม (Annex II) ของยูเนสโก
ซึ่งคณะทำงานจากสำนักงานวัฒนธรรมจาก 10 จังหวัดภาคเหนืออยู่ระหว่างการเขียนเสนอให้ทันปี 2569 เพื่อที่จะให้ครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก(ยูเนสโก)ภายในปี 2571 การจัดทำแพลตฟอร์มซึ่งพัฒนาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)