นครราชสีมา –ชาวโคราชร้องขอเงินสดแทนดิจิทัลวอลแลต ชี้แจกเงินสดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที หลังเปลี่ยน “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯ ยังไร้ความชัดเจน
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของผู้มีรายได้น้อย หลากหลายอาชีพ ในพื้น จ.นครราชสีมา ต่อนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลแลต 10,000 บาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีความชัดเจนจากรัฐบาล ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลได้โหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนที่นายเศรษฐาฯ โดยจากการสอบถามประชาชนผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่าส่วนใหญ่ไม่คิดว่านโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลแลต 10,000 บาท จะได้ไปต่อ
นายณัฐพล ถิ่นทับไทย อายุ 50 ปี พ่อค้าเร่ขายข้าวโป่ง บริเวณสี่แยกหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มาก ตนเองรับข้าวโป่งมาขายได้กำไรถุงละ 5 บาท ในอดีตเคยขายได้วันละกว่า 100 ถุง แต่ตอนนี้ขายได้วันละ 50-60 ถุงเท่านั้น และไม่ใช่เฉพาะแยกนี้ ที่แยกอื่นๆ รวมทั้งที่จังหวัดอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกันหมด ดังนั้นตนเองก็อยากให้รัฐบาลช่วยออกนโยบายมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วนเลย ส่วนเรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลแลต ตนเองนั้นได้ลงทะเบียนยืนยันขอรับสิทธิ์แจกเงินดิจิทัลวอลแลตผ่านแอพลิเคชั่นทางรัฐไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินตามที่รัฐบาลยุคนายเศรษฐาฯ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเพิ่งจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งส่วนตัวแล้วตนเองก็อยากให้รัฐบาลแจกเป็นเงินสดมาเลย เหมือนกับช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลยุคก่อนโอนเงินมาให้ครั้งละ 5,000 บาท 3 รอบ รวมเป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนนำมามาใช้จ่ายได้เลยทันที
ด้านนางอั๊วะ ตันกระโทก อายุ 49 ปี แม่ค้ารถเข็นขายขนมโตเกียว ในพื้นที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลแลต จะไปต่อได้ ทั้งที่ตนเองลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ด้วยความที่รัฐบาลยังไม่มั่นคง จึงคาดหวังอะไรไม่ได้เลย และที่สำคัญโครงการนี้ก็มีเงื่อนไขยุ่งยากหลายอย่าง โดยเฉพาะต้องใช้กับร้านค้าที่อยู่ในเขตอำเภอตามบัตรประชาชน ซึ่งตนเองนั้นเป็นคนอำเภอหนองบุญมาก แต่มาทำงานหาเงินอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา ถ้าจะใช้เงินก็ต้องขึ้นรถเมล์ไปที่อำเภอหนองบุญมาก และบ้านของตนเองก็อยู่รอบนอกตัวอำเภอ ไม่รู้ว่าจะมีร้านค้าใดรับเงินดิจิทัลวอลแลตบ้าง สุดท้ายก็ต้องวิ่งหาเข้าร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ ซึ่งมีสินค้าที่ไม่ได้ตรงตามความต้องการจริงๆ ดังนั้น เพราะบางครั้งก็ไม่ได้ต้องการเงินมาซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น เพราะสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ตนเองก็อยากจะได้เงินสดนำมาใช้จ่ายค่าเทอมลูก ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าครองชีพอื่นๆ จะดีกว่า
ขณะที่นายประเสริฐ ลับดีพะเนา อายุ 59 ปี พ่อค้าขายไก่อบโอ่ง อยู่บริเวณสี่แยกศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้การค้าขายย่ำแย่มาก ร้านของตนเองอยู่ในซอยเล็กๆ แต่ก่อนเคยขายไก่อบได้วันละกว่า 30 ตัว ตอนนี้ลูกค้าลดลงมาก ขายได้วันละ 7-8 ตัวเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อของประชาชนลดลง จึงอยากให้รัฐบาลช่วยออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากเป็นการเร่งด่วนด้วย ซึ่งนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลแลต 10,000 บาทนั้น ตนว่าไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้แน่นอน เพราะเงินจะไหลไปสู่ร้านค้ารายใหญ่หมด ร้านค้าเล็กๆ ในซอยอย่างตนเอง คงจะหมดสิทธิ์ได้เงินส่วนนั้นแน่นอน สู้แจกเป็นเงินสดให้ประชาชนสามารถนำมาจับจ่ายซื้อของในร้านค้าเล็กๆ ตามชุมชนต่างๆ ได้ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้ชัดเจนกว่า
โดย…ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา