“ใช้คนใบ้เดินส่งยาเสพติด มันจะไม่มีทางซักทอดถึงเราได้” ความคิดสุดเจ้าเล่ห์ของ ระดับหัวจ่ายของแก๊งค้ายานรกย่านพระราม9 ล่าสุดผู้การจ๋อแกะรอยรวบป้ากาเหว่า ตามหมายจับในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ“ โดยเจ้าตัวสารภาพแต่อ้างว่า ไม่ได้หลอกให้กลุ่มคนใบ้รายอื่นๆไปเดินยาเสพติดแต่เป็นความสมัครใจของพวกเค้าเอง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดในชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลี

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุญยมานนท์  ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสันพ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพสว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สืบนครบาล กับสืบ สน.มักกะสัน ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวน.ส.ประยูรหรือกาเหว่า อายุ 53 ปี ภูมิลำเนา แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จ.กรุงเทพฯ บุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.233/2567 ลงวันที่ 24 พ.ค. 67

ทั้งนี้มีความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน , ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”โดยจับกุมตัวได้ที่ ภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 34 แยก 6 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จ.กรุงเทพฯ

พฤติการณ์กล่าวคือ สืบนครบาลได้รับเบาะแสว่ามีการใช้คนใบ้เดินส่งยาเสพติด จะไม่มีทางซักทอดถึงผู้ขายได้” ความคิดสุดเจ้าเล่ห์ของ ระดับหัวจ่ายของแก๊งค้ายานรกย่านพระราม 9 โดยเรื่องนี้เริ่มแดงขึ้นจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนปราบปรามยาเสพติด โดยใช้สายลับติดต่อล่อซื้อจากเอเย่นรายหนึ่งทางแอ็พพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่พาสายลับไปยังจุดนัดพบเพื่อส่งมอบยาเสพติด ชุดสืบสวนเริ่มจะได้กลิ่นทะแม่งๆเพราะสถานที่นัดหมายคือ “ชุมชนคนไร้เสียง” แขวงบางกะปิ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หลังวางกำลังซุ่มโปร่งดูราวชั่วโมงเศษ ก็ได้มีชายไทยขับรถจักรยานยนต์โผล่มายังจุดนัดพบ และส่งยาไอซ์ 1 ถุง ให้กับสายลับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าชาจน์จับกุมตัวทันที แต่ก็ต้องพากันงงเพราะไม่ว่าจะถามอะไรชายไทยรายนี้ก็ไม่สามารถพูดได้ ได้แต่ทำท่าทางทำมือแปลกๆ ใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งถึงทราบว่าชายไทยรายนี้ “เป็นผู้พิการ (ใบ้)”

แต่ยังสามารถฟัง อ่าน เขียน ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำกระดาษมาให้ชายไทยรายนี้เขียนจึงทราบว่า คือ นายภัทรสิน หลังจากการจับกุมตัว ชุดสืบสวนขยายผลอย่างยากลำบาก ไม่สามารถพูดคุยได้เหมือนผู้ต้องหาปกติ ชุดสืบสวนขยายผลเล็งเห็นแล้วว่าการใช้คนเป็นใบ้มาส่งยาเสพติดลักษณะนี้ เจ้าของยาเสพติดรายนี้ต้องไม่ธรรมดา จึงตัดสินใจ “กัดไม่ปล่อย” พยายามหาพยานหลักฐานอื่นๆกว่า 2 สัปดาห์จนกระทั่งสามารถออกหมายจับ น.ส.ประยูร หรือป้ากาเหว่า ในข้อหา “สมคบฯ” ได้ในที่สุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ส่งชุดสืบสวนแกะรอยหาตัวเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์จนสุดท้ายสามารถติดตามจับกุมได้ขณะที่อยู่กับแฟนหนุ่มที่พิการ (เป็นใบ้) โดยทั้งสองพึ่งเดินทางกลับจากการไปมั่วสุมที่ชุมชนคนไร้เสียงย่านพระราม9 หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบภาพในโทรศัพท์ของป้ากาเหว่าพบภาพการมั่วสุมยาเสพติดในชุมชนคนไร้เสียง และพบข้อความติดต่อขายยาเสพติด “เป็นประจำ”

ในชั้นจับกุม น.ส.ประยูรฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองมีความพิการประเภทหูตึง ใครพูดจะไม่ค่อยได้ยินจะต้องมาตะโกนใกล้ๆหู ในคดีนี้ตนยอมรับสารภาพว่าขายยาบ้า แต่ไม่ได้ขายยาไอซ์ โดยอ้างว่าที่ขายเพราะตนเองถูกบังคับให้ขาย ไม่ได้หลอกให้คนใบ้รายอื่นๆไปเดินยา แต่เป็นความสมัครใจของพวกเค้าเอง ส่วนคนที่ตนไปรับยาเสพติดมาปล่อยต่อคือ นายต่อ กับ เจ๊ฝน โดยทั้งสองเป็นขาใหญ่อยู่ในชุมชนคนไร้เสียงพระราม 9 แต่ตนเองขอไม่พูดถึงไปมากกว่านี้เพราะกลัวว่าเพื่อนจะไม่คบ”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐานการติดต่อซื้อขายยาเสพติดในคดีตั้งต้นนั้นมัดแน่น แต่ที่ทำให้ผมรับไม่ได้คือการใช้ความพิการ ความด้อยโอกาสของคนอื่น หลอกใช้ให้กระทำสิ่งผิดกฏหมายเยี่ยงนี้ ซึ่งหลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด หากผู้ใดมีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ โดยเฉพาะในชุมชน คนไร้เสียง ย่านพระราม 9 โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”