“กองทัพพม่า” ตอบโต้เดือด ส่งเครื่องบินรบทิ้งบอมบ์แนวปะทะตลอดทั้งคืน โจมตีฝ่ายต่อต้านอย่างหนัก หลังถูกบุกยึดด่านเมียวดีแห่งที่ 2 ชาวบ้านหนีตายทะลักฝั่งไทย ขณะที่ด่านพรมแดนแม่สอดแห่งที่ 1 เช้านี้ยังคงเปิดตามปกติ แต่บรรยากาศเงียบเหงา คนไทย-เมียนมาผวาสงคราม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา หลังเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ทหารกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นแอลเอ (Karen National Liberation Army-KNLA) ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นยู (Karen National Union-KNU) และทหารกองกำลังพิทักษ์ประชาชน พีดีเอฟ (People’s Defense Force-PDF) จำนวนหลายร้อยนาย พร้อมอาวุธสงครามและอาวุธหนักครบมือ นำกำลังบุกเข้ายิงโจมตีกองกำลังทหารกองทัพเมียนมา จำนวนกว่า 200 คน ซึ่งเป็นทหารเมียนมาจากค่ายผาซอง กองพัน ร.275 และกองพล ร.เบาที่ 44 เมียวดี ซึ่งปักหลักต่อสู้แบบไม่ถอย อยู่ภายในพื้นที่ทำการด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 ฝั่งตรงข้ามด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก
ล่าสุด ทหารฝ่ายต่อต้านสามารถเข้ายึดพื้นที่ด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 ได้บางส่วนแล้ว แต่ก็ถูกกองทัพอากาศเมียนมาตอบโต้แบบดุเดือด ด้วยการส่งเครื่องบินรบหลายลำบินเข้าไปทิ้งระเบิดจำนวนมาก ถล่มรอบพื้นที่ด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 ซึ่งมีการทิ้งระเบิดตลอดทั้งคืนยาวมาถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังเสียงระเบิดสงบมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากพื้นที่ปะทะจำนวนมากหลายสิบคน ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกยิงและถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย และถูกลำเลียงข้ามฝั่งมาในพื้นที่ อ.แม่สอด เพื่อขอความช่วยเหลือรักษาแบบฉุกเฉินช่วงกลางดึก จน รพ.แม่สอด ต้องระดมทีมแพทย์และรถกู้ชีพจากทุกหน่วยงานไปรับผู้ได้รับบาดเจ็บ กระจายส่งไปรักษาตัวโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วพื้นที่แนวชายแดน อ.แม่สอด ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม เบื้องต้นทหารไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ
ขณะเดียวกัน ฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดและทหาร ร่วมกันเข้าประจำการรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จำนวน 2 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนเข้าพักอาศัยชั่วคราว ซึ่งขณะนี้มียอดผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมารวมทั้งสิ้น 2,809 คน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดได้บริหารจัดการดูแลชาวเมียนมาทุกคนเป็นอย่างดี ซึ่งชาวเมียนมาที่อพยพข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาฝังไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็กเล็ก และคนชรา ซึ่งเด็กเล็กหลายคนมีอาการเจ็บป่วย จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทีมแพทย์และอาสาสมัครจากหลายหน่วย จึงต้องเข้าไปดูแลรักษาในพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ส่วนคนป่วยอาการหนักจะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอแม่สอด ส่วนด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 เช้านี้ด่านยังคงเปิดตามปกติ แต่บรรยากาศเงียบเหงา เนื่องจากทั้งคนไทยและคนเมียนมาในเมืองเมียวดีได้หนีข้ามด่านพรมแดนแม่สอดมาตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาแล้ว ส่วนด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ด่านฝั่งไทยเปิดตามปกติ แต่พนักงานขับรถขนส่งสินค้านับร้อยคันต่างจอดรถเต็มลานจอดรถ เนื่องจากไม่กล้าข้ามด่านพรมแดนเมียวดีแห่งที่ 2 เกรงความไม่ปลอดภัย ล่าสุดเครื่องบินกองทัพอากาศเมียนมายังคงบินทิ้งระเบิดรอบพื้นที่ปะทะหลายรอบ ยิ่งทำให้สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากภายในด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 ยังคงมีกำลังทหารเมียนมาคงกำลังอยู่ พร้อมยิงปะทะกับทหารฝ่ายต่อต้านได้ตลอดเวลา