ตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจ บก.ปทส.​ได้ร่วมกันจับกุม นาย จางฯ อายุ 69 ปี สัญชาติไต้หวัน ​ในข้อหา 1. ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และ 2. เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ​พร้อมของกลาง กากแคดเมี่ยม น้ำหนักรวมประมาณ 1,000 ตัน ซึ่งสถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด บริษัทในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

พฤติการณ์ ด้วยเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2567 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบโกดังไม่มีเลขที่แห่งหนึ่ง ที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สามารถตรวจยึดกากแคดเมี่ยมได้จำนวนมาก ซึ่งเจ้าของโกดังดังกล่าว ได้ซักทอดว่าได้ซื้อมาจากเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเข้าค้นบริษัทดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. จึงได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมโรงงาน และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ กากแคดเมี่ยมบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบค น้ำหนักรวมกว่า 1000 ตัน จากนั้นจึงได้ทำการอายัดกากแคดเมี่ยมไว้ทั้งหมด และสุ่มจัดเก็บตัวอย่างกากแคดเมี่ยมเพื่อตรวจพิสูจน์ และได้ดำเนินคดีแก่นายจาง สัญชาติไต้หวัน กรรมการของบริษัทดังกล่าว ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของนายจาง พบว่า นายจางได้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่าที่ได้อนุญาตไว้ จึงได้ดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด อีกข้อหาหนึ่งด้วย จากนั้นจึงได้จัดทำบันทึกจับกุม แล้วนำผู้ต้องหาส่ง พงส. กก.5 บก.ปทส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ​เตือนภัย การครอบครองวัตถุอันตราย หรือกากอุตสาหกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมาย และหากสารดังกล่าวมีการปนเปื้อนไปยังบุคคลอื่น หรือที่สาธารณะสมบัติ สามารถถูกฟ้องร้องในทางแพ่งได้อีกด้วย