สายมูทึ่งสุดยอดของความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารต้องเที่ยวงานนมัสการและสมโภชหลวงพ่อเหลือวัดหงษ์ เมืองชาละวันที่เป็นงานมหกรรมรวมพลคนโชคดีนับพัน นับหมื่นคน ที่นัดกันมาแก้บนหลังจากที่บนบานศาลกล่าวแล้วโชคดีสมหวัง สมปรารถนาด้วยการจ้างลิเกรำทำการแสดงกันทั้งวันทั้งคืน โดยมีกฎกติกา 1 ปี ให้แก้บนได้เฉพาะในช่วงที่วัดจัดงานเท่านั้นมิเช่นนั้นแล้วทั้งพระ ทั้งโรงเรียน ที่อยู่ติดกับวัดสู้ไม่ไหวกับเสียงอึกทึกครึกโครมของโรงลิเกจนเป็นที่มาของงานมหกรรมการแก้บนที่ยิ่งใหญ่ให้ต้องมาท้าพิสูจน์
องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร โดย พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร , นายพิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร รวมถึงสมาชิกสภา อบจ.พิจิตร เล็งเห็นความสำคัญของการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นวิถีชีวิตของท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว อบจ.พิจิตร จึงได้จัดงบประมาณ 3 แสนบาท เพื่อสนับสนุนการจัดงานนมัสการและสมโภชหลวงพ่อเหลือวัดหงษ์ ตำบลย่านยาว อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งจะจัดงานขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 23 ถึง 26 มีนาคม 2566 จุดเด่นของงานนมัสการและสมโภชหลวงพ่อเหลือ คือ เป็นการรวมพลคนโชคดี ที่เคารพบูชาเชื่อถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บนบานศาลกล่าวขอให้ประสบความสำเร็จในอาชีพและหน้าที่การงาน เมื่อได้สิ่งที่สมหวังแล้วจึงนัดรวมตัวกันพร้อมใจมาแก้บนด้วยการนำลิเก มารำแก้บนถวายหลวงพ่อเหลือ ซึ่งเป็นประจำทุกปีก็จะมีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านทั้งใกล้และไกลจากทั่วสารทิศนับหมื่นคนที่มาร่วมในงานครั้งนี้
สำหรับการแก้บนที่เป็นความเชื่อและทำสืบต่อกันมา คือการจ้างลิเกมาแสดงหรือรำถวายมือภายในพระอุโบสถ ซึ่งในอดีตใครอยากจะมาแก้บนตอนไหน เวลาใด ก็มิได้บังคับหรือกำหนดวัน เวลา จึงทำให้ในแต่ละวันภายในวัด ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนวัดหงษ์มีการแสดงลิเกส่งเสียงดังจนเด็กๆ ในโรงเรียนไม่มีสมาธิในการเรียนการสอนจนกระทั่งเมื่อประมาณ 20-30 ปีที่ผ่านมา กรรมการวัดและเจ้าอาวาสวัดหงษ์จึงได้กำหนดให้ในช่วงขึ้น 15 ค่ำเดือน 9 ของทุกปี ให้เป็นวันนัดรวมพลคนสมหวังโชคดีให้มาทำการแก้บนในช่วงที่วัดจัดงานเท่านั้น จึงทำให้ชื่อเสียงและกิตติศักดิ์อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ขององค์หลวงพ่อเหลือวัดหงษ์แพร่กระจายโด่งดังไปทั่ว จนเป็นที่มาของการจัดงานด้วยการแสดงลิเกแก้บน
แต่ด้วยจำนวนคนที่มาแก้บนเป็นจำนวนมาก ลิเกไม่สามารถจะแสดงได้ตามจำนวนของผู้ที่ต้องการแก้บน ทางวัดจึงต้องกำหนดด้วยการใช้ธูป 1 ดอก แทนลิเก 1 ตัว ที่ทำบุญกับทางวัดด้วยบูชาธูปด้วยเงิน 10 บาท ซึ่งแต่ละคนต่างบนบานศาลกล่าวว่าถ้าได้สิ่งที่สมปรารถนาก็จะให้ลิเกรำถวาย 10 ตัว , 20 ตัว หรือ 100 ตัว แล้วแต่ศรัทธาด้วยการบูชาธูปเงินถวายวัด ซึ่งแต่ละปีมีคนทำบุญด้วยการบูชาธูป 1 ดอก แทนลิเก 1 ตัว ได้เงินเข้าวัดปีละหลายล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าพลังศรัทธาของสายมู หรือ ผู้ที่เลื่อมใสหรือสมหวังนั้นมีเป็นจำนวนมากและทวีมีมากขึ้นทุกปีจนคนแน่นวัดในช่วงที่จัดงาน 4 วัน 4 คืน ดังกล่าว
นอกจากนี้ภายในงานจัดให้มีมหรสพการแสดงพื้นบ้าน ไลท์แอนด์ซาวนด์ ตำนานอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อเหลือวัดหงษ์ นอกจากนี้ยังมีสินค้าของกินของใช้ผลิตภัณฑ์ Otop มาให้เลือกชม เลือกชิม เลือกช้อป มากมาย รวมถึงภายในงานจัดให้มีจุดเช็คอินมุมถ่ายรูปสวยๆให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ งานนี้เที่ยวฟรี ชมฟรี !!! อีกด้วย
โดย…สิทธิพจน์ เกบุ้ย/พิจิตร/