ตรัง- มือปืนไม่ต่ำกว่า 3 คน ซุ่มอยู่ในกอไผ่ถล่มอาวุธปืนสงครามยิงใส่ อดีตผู้ใหญ่บ้าน นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน แต่รอดตายราวปาฎิหาริย์
ร.ต.อ.ธีระพัฒน์ เจริญฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2565 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุซุ่มยิง นายปรีดี รัตนะ อายุ 66 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน เหตุเกิดภายในบ่อกุ้งร้าง พื้นที่หมู่6 บ้านโคกออก ต.ตะเสะ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง ร.ต.อ.ปณตพร ผลบุญ รอง สว.สส. สภ.หาดสำราญ กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดสำราญ และสืบสวน ภ.จว.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ่อกุ้งร้าง ภายในที่ดินจำนวน 30 ไร่ ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว และชาวบ้านทำกินอยู่จำนวน 8 เจ้าของ ทางตำรวจจะเชิญตัว นายปรีดี ไปสอบปากคำ ที่ สภ.หาดสำราญ พร้อมนำอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ขนาด .357 มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ไปเก็บไว้เป็นหลักฐานและเพื่อตรวจสอบ หลังจากที่เจ้าตัวอ้างว่าใช้เป็นอาวุธที่ยิงสวนกลุ่มคนร้ายไปขณะเกิดเหตุ และหลังจากนั้นได้นำตัวไปส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจหาคราบเขม่าดินปืนบริเวณมือและร่างกายของนายปรีดี
นายปรีดี กล่าวว่า ตนเดินทางไปเลื่อนวัวฝูงที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว บริเวณที่ดินหลังบ้าน ในระหว่างกำลังจะเดินกลับบ้านมาถึงจุดที่เป็นบ่อกุ้งร้าง มีกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ซุ่มอยู่ภายในกอไผ่ ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ได้ยิงเข้าใส่ตนจำนวน 2 นัด กระสุนเฉียดผ่านหน้าตนไป จากนั้นคนร้ายได้ยิงถล่มใส่จำนวนอีกกว่า 9 นัด ตนจึงชักอาวุธปืนลูกโม่ .357 ใช้กระสุนปืนขนาด .38 ยิงสวนไปจำนวน 3 นัด ซึ่งนัดที่ 2 ได้ยิงเสียงกลุ่มคนร้ายพูดอุทานออกมาว่า ‘โอ้ย’
ตอนนี้ตนก็คิดว่าปมปัญหาอาจจะมาจากเรื่องที่ดินดังกล่าว จำนวน 30 ไร่ มีเจ้าของจำนวน 8 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นที่ดินของตนที่ใช้ทำกินมาตั้งแต่อดีต และตนเป็นแกนนำหลักในการเรียกร้อง ทำให้มีปัญหาคาราคาซังมาเป็นระยะเวลาพอสมควร และก่อนหน้านี้ก็เคยถูกข่มขู่ รวมทั้งมีคนเคยพยายามตั้งค่าหัวเพื่อหวังฆ่าตนมาแล้ว
ด้าน นายพ้อง สิมเท่ง อายุ 68 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ในระหว่างกำลังจูงวัวของตนกลับคอก ซึ่งอยู่ห่างกับผู้ใหญ่ดีประมาณ 40 เมตร ก่อนที่จะได้ยิงเสียงปืนดัง 1 นัด และรัวมาหลายนัดประมาณเกือบ 10 นัด และสุดท้ายได้ยิงดังอีก 3 นัด ตนก็รีบจูงวัวเอาไว้ กลัวว่าวัวจะตกใจเสียงปืน ซึ่งตอนนั้นคิดว่าเป็นการยิงล่าสัตว์ป่า จึงไม่สนใจ หลังจากนั้นได้ยินเสียงของผู้ใหญ่ดีเรียกตนว่าถูกลอบยิง
ส่วน นางตุ รอดสุด อายุ 64 ปี ภรรยานายปรีดี กล่าวว่า สามีไม่เคยเล่าหรือบอกว่าขัดแย้งกับใคร แต่รู้ว่าเป็นแกนนำในการเรียกร้องสิทธิกับป่าชายเลน หลังจากพ้นโทษออกจากคุก และไปทำกินอยู่ในที่ดิน ใน อ.กันตัง จำนวน 70 ไร่ด้วย ซึ่งก็มีปัญหากับเจ้าของรายอื่นๆในที่ใกล้กันด้วย ตอนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงปืน เพิ่งมารู้ตอนที่สามีกลับมาบอกแล้ว และมาบอกตนว่ายิงสวนไป 3 นัด โดยปกติสามีจะพกปืนติดตัวตลอดเวลา
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายปรีดี เคยถูกต้องโทษติดคุกคดีเกี่ยวกับที่ดิน พื้นที่ สภ.กันตัง จ.ตรัง กว่า 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงเดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมา หลังจากที่พ้นโทษออกมาได้เป็นแกนนำในการเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน รวมทั้งของเจ้าตัวด้วย ทั้งนี้ยังคงมีการขัดแย้งกันกับเอกชนในที่ดินจำนวนประมาณ 100 กว่าไร่ ที่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวครอบครองอยู่ประมาณ 70 ไร่ จนมีปัญหานำมาสู่การติดคุกในครั้งนั้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ อยู่ในระหว่างการลงพื้นที่หาข่าว ทั้งภายนอกและภายในพื้นที่ ส่วนทางพนักงานสอบสวนยังคงไม่ให้น้ำหนักในคำให้การของผู้เสียหายในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ยังคงต้องทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป