พลโท พงศ์เทพ แก้วไชโย เสนาธิการวิชาการป้องกันประเทศ ประธานเปิดอบรมหลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง ผู้บริหารสถานศึกษา สพฐ. กระทรวงศีกษาธิการ รุ่นที่ ๑๑

สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันทางวิชาด้านการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพ อบรมผู้บริหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากร สพฐ. กระทรวงศีกษาธิการ รุ่นที่๑๑ จำนวน ๘๐ คน เพิ่มทักษะศักยภาพทางการบริหาร เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด

สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันทางวิชาการด้านการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย ภารกิจในการประสาทวิชาการทางด้านสังคมจิตวิทยา การเมือง การปฏิบัติการข่าวสาร แก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน พนักงานของรัฐ และบุคลากรอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย ปัจจุบันมี พลตรี ชยุตรา เสริมสุข เป็นผู้อำนวยการ

เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ ห้องประชุมสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนวิภาวดีรังสิต ดินแดง กรุงเทพ พลโทพงศ์เทพ แก้วไชโย เสนาธิการวิชการป้องกันประเทศ เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศีกษาธิการ รุ่นที่ ๑๑ จำนวน ๘๐ คน โดยมี พลตรี ชยุตรา เสริมสุข ผู้อำนวยการสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน

ปัจจุบันทางสถาบันฯได้มีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงเนื้อหาวิชาอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีการฝึกอบรมปีละ ๑ รุ่นระยะเวลา ๑๖ สัปดาห์ ยังมีเพิ่มเติมเนื้อหาวิชาการปฏิบัติการข่าวสารในหลักสูตรมีการฝึกร่วมกับวิทยาลัยเสนาธิการทหารเพื่อให้นักศึกษาผู้เข้าอบรมมีความรู้สึก เข้าใจในแนวคิดและสามารถกำหนดแนวทางการปฏิบัติการข่าวสารได้ โดยจะเน้นในเรื่องการปฏิบัติการจิตวิทยาและการประชาสัมพันธ์

สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง มีความมุ่งมั่นให้นักศึกษาสามารถนำแนวทางตามหลักสูตรไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ก่อให้เกิดความมั่นคงและประโยชน์ต่อประเทศไทยให้มากที่สุด

ผู้ที่เข้าอบรมได้ประกอบด้วยข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และบุคคลอื่นตามนโยบายที่ได้รับ

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศีกษาธิการได้ คัดเลือกผู้บริหาร ตั้งแต่ ระดับเขตการศึกษา ผอ.โรงเรียน และบุคลากร ระดับบริหาร เข้าอบอรม กับสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง เพื่อมุ่งพัฒนาให้ผู้เข้าอบรมมีคุณลักษณะ ๔ ประการ

๑. ด้านสติปัญญา มีทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปความคิด อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ประยุกต์องค์ความรู้ ด้านการศึกษา เยาวชนกับความมั่นคงของชาติ หลักการบริหารธรรมาภิบาล การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในสถานศึกษา การปฏิบัติงานด้านการปฏิบัติการข่าวสาร การปฏิบัติการจิตวิทยาการประชาสัมพันธ์ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติด้านการศึกษา มีความสามารถในการเชื่อมโยงปรากฏการณ์ระหว่างท้องถิ่นกับโลก

๒. ด้านความเป็นผู้นำ มีทักษะการบริหารสำหรับผู้นำในศตวรรษที่ ๒๑ ทั้ง ๔ ด้าน ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking and Problem Solving) ความคิดสร้างสรรค์(Creativity and Innovation) การสื่อสาร(Communication) และความร่วมมือ (Collaboration)

๓. ด้านหน้าที่พลเมือง มีสำนึกสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมทางศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริตมีเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จิตอาสา มีส่วนร่วมกับชุมชนและสังคมในการทำประโยชน์สาธารณะ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นภายใต้ความหลากหลายของสังคม บนฐานการเรียนรู้ที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง

๔. ด้านเครือข่ายความมั่นคงและอุดมการณ์ความรักชาติ เป็นเครือข่ายความมั่นคง จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ รักและภูมิใจในความเป็นไทย ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีระเบียบวินัย มีความรักสามัคคีในหมู่คณะ เชื่อมั่น ศรัทธาต่อการปฏิบัติงานของกองทัพในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติโดยดำเนินการจัดทำจุดมุ่งหมายของหลักสูตร