จากเหตุการณ์ ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู อายุ 50 ปี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร พานักเรียนสาววัย 17 ไปข่มขืนแลกกับค่าปรับจราจร 2,000 บาทรายนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2567 ภายหลังจากเพจสายไหมต้องรอดโพสต์ข้อความว่านักเรียนหญิง ม.5 ขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนกับน้องถูกตำรวจเรียกตรวจ พบว่าไม่มีใบขับขี่ ตำรวจเรียกเงินไป 2,000 บาท แต่น้องไม่มีจ่าย ถูกพาไปข่มขืนข้างโรงพัก” ต่อมานายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ประสานไปยัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กรตำรวจ

ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังทราบเรื่อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการไปยัง พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาคดีอาญากับตำรวจนายดังกล่าวพบว่ามียศ ร.ต.อ. สังกัด สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร พร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย รวมถึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ส่งตัวไปตรวจร่างกาย และสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพโดยเร็วที่สุด

ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ที่ สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร และ พ.ต.อ.อนุภาพ ผิวอ่อน รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง มี พ.ต.อ.ชวภณ จันทเมนชัย ผกก.สภ.ป่าติ้ว เข้าหารือ จากนั้นเรียกตัว ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู หรือผู้กองแอ็ด รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าติ้ว ปฏิบัติหน้าที่งานจราจรที่ถูกกล่าวหาเข้าให้ปากคำถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร และโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร แถลงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 10.00น. วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา มีนายตำรวจยศ ร.ต.อ.หรือรองสารวัตรปฏิบัติหน้าที่งานจราจรขับรถออกปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจงานจราจร กระทั่งพบ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ขับรถจยย.มากับเพื่อน 2 คน รองสารวัตรขับรถแซงขึ้นไป จากนั้นเรียกผู้เสียหายให้จอด พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่มีใบอนุญาตขับขี่

รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร กล่าวว่า จากการสอบถามรองสารวัตรคนดังกล่าวทราบว่าพาผู้เสียหายไปข่มขืนจริง จากนั้นในช่วงเย็นผู้เสียหายพร้อมผู้ปกครองเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ป่าติ้ว ตำรวจพาน้องผู้เสียหายไปตรวจร่างกายแล้ว ขณะนี้ทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว ส่วนการดำเนินคดีจะแจ้งข้อกล่าวหารองสารวัตรคนดังกล่าวฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย

“ตอนนี้น้องผู้เสียหายอยู่ในอาการโศกเศร้าและสะเทือนใจ ต้องมีคุณแม่คอยนั่งปลอบใจอยู่เคียงข้างตลอด ในส่วนของตำรวจต้องขอแสดงความเสียใจต่อน้องผู้เสียหายและครอบครัวด้วย” โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรกล่าวและว่า ขณะนี้ พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร มีคำสั่งให้นายตำรวจคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนและเน้นย้ำให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตำรวจไม่ดีไม่เอาไว้ ทั้งนี้หลังแจ้งข้อกล่าวหาแล้วจะนำตัวรองสารวัตรไปฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับจุดที่ น.ส.บี ถูกนายตำรวจคนดังกล่าวพาไปข่มขืนเป็นห้องเก็บของด้านหลังศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอป่าติ้ว ห่างจาก สภ.ป่าติ้ว 150 ม. จากการตรวจสอบภายในห้องพบคราบรอยเท้าติดบนพื้น อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ กศน.ทราบว่าในวันที่ 29 ม.ค.ไม่มี เจ้าหน้าที่อยู่ในศูนย์ฯ เนื่องจากทุกคนไปร่วมแข่งขันกีฬาที่ จ.อุบลราชธานี ส่วนจุดที่รองสารวัตรเรียกตรวจใบขับขี่และจับหมวกกันน็อกเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายอยู่บนถนนอรุณประเสริฐ บริเวณปากทางเข้า กศน. ก่อนพาผู้เสียหายเดินไปในห้องเก็บของ อยู่ห่างจากปากทางเข้าประมาณ 100 เมตรแล้วลงมือข่มขืน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันเดียวกัน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเพจสายไหมต้องรอดโพสต์ข้อความร้องตำรวจจราจร สภ.ป่าติ้ว เรียกตรวจนักเรียนสาว ม.5 ไม่มีใบขับขี่เรียกค่าปรับสูงถึง 2,000 บาท แต่น้องไม่มีจ่ายถูกตำรวจพาไปข่มขืนข้างโรงพักว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วสั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3 ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีมูลเป็นความจริงให้ดำเนินคดีอาญาเด็ดขาด ตั้งคณะกรรมการวินัยร้ายแรง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมขยายผลดำเนินการผู้เกี่ยวข้องทุกราย และหากตรวจสอบว่าผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องให้ดำเนินการเอาผิดตามมาตรการ 1212/2537 ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังตรงไปตรงมาทุกมิติ ไม่มีการช่วยเหลืออย่างแน่นอน พร้อมให้ความคุ้มครองดูแลผู้เสียหาย พยานในคดีทุกมิติ ให้ความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ต่อมาเวลา 16.00 น. พนักงานสอบสวน นำ ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู อายุ 50 ปี รอง สว. (สอบสวน) สภ.ป่าติ้ว ปฏิบัติหน้าที่งานจราจรไปศาลจังหวัดยโสธร ยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากต้องสอบสวนพยานบุคคลอีก 10 ปาก รอผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือ และรอผลการตรวจจากแพทย์ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพท้ายคำร้องหากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาเป็นคดีอุกฉกรรจ์ คดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ฝากขัง ขณะที่ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาเเล้วไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำจังหวัดยโสธรทันที