“สมศักดิ์“โดดซ้อนฮาเล่ย์ ร่วมฉลองครบ 1 ปีปลดล็อกกระท่อมเมืองคอน ย้ำต้องผลักดันเป็นอาหารเพิ่มรายได้เกษตรกร แนะราชการต้องใจกว้างจะจบเร็ว พร้อมค้านนำเข้าจากต่างประเทศเพราะทำกฎหมายเพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
วันที่ 25 สิงหาคม 2565 เวลา 16.30 น. ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสมศักดิ์ เทพสุทินรมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ซ้อนท้ายขบวนมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson ไปเปิดงาน“สร้างเศรษฐกิจเพื่อชาวใต้ เปลี่ยนพืชกระท่อม เป็นเงินสด” ที่ตลาดลีวัฒนา โดยมี นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูลผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ นายยงยศ แก้วเขียว ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแป่งประเทศไทย และประชาชนร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เป็น รมว.ยุติธรรม ตนเดินทางมา จ.นครศรีธรรมราช ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 โดยพื้นที่ปลูกกระท่อมใน จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนขึ้นทะเบียนแล้ว 2,878 ราย จำนวน 249,169 ต้น ที่มีการปลูกกระท่อมหนาแน่น คือ อ.จุฬาภรณ์ ลานสกา และชะอวด วันนี้ครบรอบ 1 ปีที่กระท่อมถูกกฎหมาย เราร่างกฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อม ใช้เวลา 547 วัน หรือ 1 ปีครึ่ง ผลักดันจนสำเร็จเวลานี้ยังมี ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่อยู่ระหว่างการรอโปรดเกล้าฯ บังคับใช้เป็นกฎหมาย ปัญหาของพืชกระท่อมหลังปลดล็อกมา 1 ปี มีการปลูกอย่างเสรีทำให้ราคาตกลง จากเมื่อก่อนกิโลกรัมละ 400-600 บาท ปัจจุบันราคาขายปลีกเหลือ 200 บาท ขายส่ง 120-150 บาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนยังขาดการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐ ทั้งเรื่องการวิจัย พัฒนามาตรฐาน และการให้ความรู้ทางวิชาการ การสนับสนุนเรื่องการส่งออก การทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งตลาด อเมริกา และ จีน ต้องการมากรวมถึงการผลักดันแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร เครื่องสำอางค์ ซึ่งกำกับและควบคุมโดยองค์การอาหารและยา (อย.) โดยป.ป.ส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ประสานกับหลายหน่วยงานเพื่อให้เกิดมิติรอบด้าน เดินหน้าร่วม 8 องค์กร และ 4 มหาวิทยาลัย และเราได้เตรียมนำผู้ประกอบการพบ อย. เพื่อหารือการสร้างผลิตภัณฑ์จากกระท่อม และให้ป.ป.ส.ตั้งคณะกรรมการเพื่อประสานงานและศึกษาแนวทาง เราจะต่อสู้ให้กระท่อมเป็นอาหารและเครื่องดื่มอย่างถาวร หากหน่วยงานราชการใจกว้างก็จะจบเร็ว เพราะในเมื่อปู่ย่าตายายเรากินกันมานานแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่าเราจะเปลี่ยนกระท่อมเป็นอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผม ไม่สนับสนุนการนำเข้าใบกระท่อมจากต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์เต็มที่ การผ่านกฎหมายนี้เพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจของคนไทย ตนอยากนำกระท่อมส่งออก แต่ยังติดที่ราคาบ้านเรายังแพงกว่าเพื่อนบ้านแต่เราจะพยายาม ใครมีข้อมูลอะไรขอให้ช่วยนำเสนอกันมา และต้องฝากแจ้งเบาะแสยาเสพติดด้วยที่สายด่วน 1386 สุดท้ายผมต้องขอบคุณชาวใต้อีกครั้งที่สนับสนุนผม เป็นกำลังใจให้ผม ผ่านกฎหมายกระท่อม จนประสบความสำเร็จ“นายสมศักดิ์ กล่าว