จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ เมื่อนายสมชาย แก้วโกมล อายุ 54 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เบอร์ 44 เกิดอาการคลั่งใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงฆ่ายกครัวของอดีตคนรักรวม 5 ศพ ก่อนปลิดชีพตนเองเพื่อหลบหนีความผิด โดยตำรวจเตรียมเรียกตัวน.ส.ชมพู่ คนใกล้ชิดของผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำแล้วในเบื้องต้น

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 8 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังน.ส.ชมพู่ พร้อมเปิดใจครั้งแรกว่า ปัญหาไม่เกี่ยวกับเรื่องหนี้สิน โดยตนเคยอยู่ด้วยกัน แต่อีกฝ่ายไม่ช่วยเหลือเลย ทำให้ต้องดูแลลูก 5 คนเพียงคนเดียว โดยก่อนหน้านายสมชายเคยข่มขู่ ทำให้ไปแจ้งความไว้แล้ว ซึ่งเคยใช้ปืนมาจ่อหัวและใช้ปืนทุบกระจกรถ ครั้งนี้เหมือนนายสมชายจะพยายามตามตนกลับไปอยู่ด้วย แต่กลับไปไม่ได้แล้ว

น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสมชายมีพฤติกรรมก้าวร้าวกับป้าและแม่ของตนด้วย โดยเคยด่าป้าลั่นร้านข้าวมาแล้ว ซึ่งนายสมชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและมีปืนอยู่แล้ว หากนายสมชายเมาจะนำปืนออกมายิงหลายครั้ง

น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า ยืนยันตนไม่ได้ไปงัดห้องพัก แต่ไปเอากุญแจรถของตน อีกทั้งห้องที่พักก็ซื้อด้วยกันกับนายสมชายจากเงินประกันโควิด โดยยืนยันปมก่อเหตุมาจากนายสมชายจะให้ตนกลับไปอยู่ด้วย แต่ตนไม่กลับไป สาเหตุมาจากแต่ละคนต้องดูแลครอบครัวตัวเอง โดยคนที่ชวนหย่าคือนายสมชาย ไม่ใช่ตน ตอนหย่าก็ไม่มีอารมณ์โมโหต่อกัน

น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุที่ตนย้ายออกมา ตนได้บล็อกไลน์และเบอร์โทร.ไป ทำให้ติดต่อไม่ได้และอาจทำให้โมโห กระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ จากเหตุการณ์นี้เชื่อว่านายสมชายตั้งใจไปก่อเหตุ เพราะเคยพูดว่าถ้าจะเอาก็จะเอาไปทั้งหมด และจะทำให้เสียใจ 100 เท่า ซึ่งการกระทำครั้งนี้โหดร้ายไป เพราะก่อเหตุกับเด็กด้วย

“ตลอดเวลา 6-7 ปีที่อยู่ด้วยกัน เคยโดนทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และใช้ปืนจ่อหัวด้วย ทำให้เคยแจ้งความไว้ แถมยังเคยใช้ปืนมาทุบกระจกรถด้วย”น.ส.ชมพู่ กล่าว

น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพยายามติดต่อหาแม่และป้า แต่ไม่มีใครรับสาย ตอนนั้นคิดแล้วต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆ กระทั่งมาทราบข่าว