นครสวรรค์-ดาบตำรวจสภ.นาหินลาดวัย 51 ทะเลาะเมียสาววัย 33 จนลุกลามใหญ่โตท้าทายยิงกัน จึงชักปืนยิงเมียดับ จากนั้นคิดสั้นยิงตัวตายตามแต่ดวงยังไม่ถึงฆาตบาดเจ็บสาหัส ด้านพี่สาวฝ่ายหญิงเผยทั้งคู่มีปัญหาเรื่องการเงิน-มีปากเสียงทะเลาะกันตลอดแต่ก็รักกันดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหินลาด ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.66 เกิดเหตุยิงกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณบ้านพักตำรวจ สภ.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพนาหินลาด และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริยะ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักตำรวจอยู่หลังโรงพัก ภายในห้องพักห้องหนึ่ง พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย สภาพเลือดท่วมใบหน้า ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ต.สุรกิจ ลาภจิตร อายุ 51 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.นาหินลาด ใกล้กันพบศพ น.ส.จันทร์ทรา เลิศสกุลพาพร อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ ด.ต.สุรกิจ ถูกยิงเสียชีวิต สภาพนอนตะแคงอยู่บนเตียงนอน จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงนำตัว ด.ต.สุรกิจ ส่งรักษาที่ รพ.นครนายก ส่วนศพ น.ส.จันทร์ทรา ถูกนำส่งชันสูตรที่ รพ.มศว.องครักษ์ นอกจากนี้ยังพบขวดเหล้าที่ยังไม่เปิดอยู่หลังห้อง และพบปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม ร.ต.ท.นิธิภัทธ สิรภัทธกิตต์ธนา ตำแหน่ง รอง สว.ฝ่ายปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สภ.นาหินลาด ซึ่งอยู่ห้องใกล้กับห้องที่เกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากปฏิบัติหน้าที่ อยู่ๆได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 5 นัด และได้ยินเสียงลูกชายของ ด.ต.สุรกิจ วิ่งร้องตะโกนโวยวายขอความช่วยเหลือออกมาจากห้องว่า “พ่อยิงแม่” ตนจึงรีบวิ่งไปดูพบ ด.ต.สุรกิจ นั่งอยู่ภายในห้อง สภาพเลือดเต็มใบหน้า ข้างตัวมีปืนตกอยู่ ส่วนภรรยานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง
“จากนั้นตนจึงได้เข้าไปดู ก็พบ ด.ต.สุรกิจ ถูกยิงที่ขมับด้านซ้าย กระสุนไม่ทะลุ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเมียถูกยิงเสียชีวิต จึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำตัว ด.ต.สุรกิจ ส่ง รพ. เนื่องจากอาการค่อนข้างสาหัส” ร.ต.ท.นิธิภัทธ กล่าว
ด้าน นายศรายุทธ พรหมวงศ์ษา อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพนาหินลาด เล่าว่า ตนได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. พอถึงที่เกิดเหตุพบ ด.ต.สุรกิจ นั่งอยู่ที่เตียงนอนมีบาดแผลที่บริเวณปลายคิ้วข้างซ้าย สามารถถามตอบรู้เรื่อง ส่วนภรรยานอนตะแคงกอดหมอนข้างอยู่บนเตียง ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นจึงตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.
ขณะที่ น.ส.จันทร์ทนี เลิศสกุลพาพร พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ด.ต.สุรกิจกับน้องสาวตน คบหากันมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมามักมีปากเสียงกันตลอดแต่ก็รักกันดี ทราบว่าทั้งคู่มีปัญหาเรื่องการเงิน ส่วนลูกชายวัย 6 ขวบนั้น เป็นลูกติดของน้องสาว
“ส่วนสาเหตุนั้น ตนถามหลานชายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.สุรกิจ ไปรับหลานชายกลับมาจากโรงเรียน จากนั้นหลานชายได้หยิบโทรศัพท์มาดูการ์ตูน แต่ ด.ต.สุรกิจ ไม่ให้ดู น้องสาวจึงเปิดทีวีให้ดูแทน จากนั้นทั้งคู่ ก็มีปากเสียงกันเรื่องทีวีและท้าทายกัน จนกระทั้งน้องสาวถูก ด.ต.สุรกิจ ยิงเสียชีวิต” พี่สาวผู้ตาย กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจะเร่งสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป