ตำรวจจีนล็อกตัว 3 หนุ่มแดนมังกรแก๊งทมิฬได้แล้ว หลังอุ้ม นศ.สาวชาติเดียวกันไปกักขังทรมานรีดค่าไถ่จากพ่อแม่ 5 แสนหยวน พอไม่ได้เงินเลยรัดคอฆ่ายัดถุงหมกร่องน้ำสวนบัว ก่อนบินกลับไปกบดานบ้านเกิด เตรียมประสานนำ “หมายแดง” จับตัวส่งมาดำเนินคดีในเมืองไทย ขณะที่ตัวละครลับโผล่อีก สาวโอเกะชาวไทยวัย 19 ปี ย่องให้ปากคำทีมสืบสวนอ้างเป็นกุนซือวางแผนให้ทีมสังหารลงมือ จ่อแจ้งหลายข้อหาหนัก
คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญจากน้ำมือแก๊งคนร้ายชาวต่างชาติ ส่งผลให้ภาพลักษณ์เมืองไทยเสียหาย กรณี น.ส.จิน ซ่าน อายุ 22 ปี นักศึกษา ปี 3 คณะดนตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมยัดศพใส่ถุง สายรุ้ง นำไปทิ้งร่องน้ำติดกับสวนบัว ริมถนนวัดต้นเชือกศาลายา หมู่ 6 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุตำรวจตรวจสอบจนทราบว่า ถูกกลุ่มคนร้ายชาติเดียวกัน อุ้มไปเรียกค่าไถ่ 5 แสนหยวน หรือราว 2.5 ล้านบาท จากพ่อแม่ผู้ตายที่เป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรีอยู่ในประเทศจีน กลุ่มคนร้ายคือ นายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี นายเฉิน ไซกัง อายุ 23 ปี และ นายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเมือง เหอเป่ย ประเทศจีน หลังก่อเหตุได้ขึ้นเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ หลบหนีกลับไปเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่ สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี ได้มีหญิงไทย ชื่อ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ทำงานอยู่ร้าน คาราโอเกะ ย่านอินทามระ กรุงเทพฯ เดินทางเข้าพบ ตำรวจชุดสืบสวน อ้างว่ารู้จักกับกลุ่มคนร้ายชาวจีนทั้ง 3 คน เพราะเป็นลูกค้ามาเที่ยวที่ร้านระหว่างเดินทางเข้ามาในประเทศไทย หญิงดังกล่าวให้ปากคำ อ้างว่า ตนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนักศึกษาหญิงชาวจีน ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องการก่อเหตุเรียกค่าไถ่ รวมถึงนำศพไปทิ้ง แต่ไม่ได้มาร่วมก่อเหตุกับกลุ่มชาวจีน เนื่องจากคุยกันผ่านทางแอปพลิเคชัน วีแชต ตำรวจได้นำตัวไปสอบปากคำนานหลายชั่วโมง และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ เพราะเป็นพยานสำคัญในคดี
ต่อมา เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เดินทางไปยังที่บ้านเลขที่ 68/75 ซอย 4 หมู่บ้านดีไลท์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นบ้านที่ กลุ่มคนร้ายเช่าผ่านเอเจนซี เพื่อพักอาศัยและคาดว่า เป็นจุดลงมือสังหาร น.ส.จิน ซ่าน เจ้าหน้าที่ได้เข้ามา ตรวจอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานได้ตรวจไปแล้ว ครั้งนี้ ได้นำเครื่องมือพิเศษคุณภาพสูงมาตรวจหาคราบเลือด และ DNA รวมทั้งลายนิ้วมือแฝงของผู้ตายและของคนร้ายด้วย เพื่อส่งตรวจยืนยันไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 กก.สส.ภ.จ.นนทบุรี และทีมพนักงานสอบทำคดีร่วมประชุมหารือความคืบหน้าทางคดีและตรวจดูพยานหลักฐานที่เก็บมาได้ และจะนำไปประกอบสำนวนคดี เพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับแก๊งคนร้ายทั้ง 3 คนต่อไป
เวลา 16.00 น. หลังใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. กล่าวว่า พยานหลักฐานต่างๆ ฝ่ายสืบสวนนครบาล สืบสวนภูธรภาค 1 สืบสวนภูธร จ.นนทบุรี สืบสวน สภ.บางแม่นาง และสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้ร่วมกันสืบสวนจนได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทุกด้าน ทั้งการตรวจที่เกิดเหตุ รถยนต์ที่เกิดเหตุ ส่วนผลการชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นได้ผลการตรวจมาในระดับหนึ่ง แต่ต้องรอผลการตรวจอย่างเป็นทางการส่งกลับมาอีกครั้ง
พล.ต.ท.พีระพงศ์ กล่าวว่า สรุปคดีนี้มีคนร้าย 3 คน เป็นชายชาวจีนตามที่ปรากฏและเป็นหญิงคนไทย 1 คน อายุ 19 ปี ทำงานอยู่ร้านคาราโอเกะ ซอยอินทามระ 45 ตำรวจกำลังสอบปากคำขยายผลอยู่ หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาพบตำรวจ และให้การ เป็นประโยชน์ต่อคดีมาก ส่วนชายชาวจีน 3 คน อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ ตำรวจต้องทำคดีให้ละเอียดรอบคอบมีพยานหลักฐาน แน่นหนา เพื่อส่งหมายจับให้ตำรวจจีนและอินเตอร์โพลล่าตัวส่งกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ส่วนหญิงไทยอายุ 19 ปี ที่เป็นคนให้คำปรึกษาแนะนำในการก่อเหตุ ได้รู้จักกับชายชาวจีนที่ไปเที่ยวที่ร้าน และเกิดชอบพอกัน หลังสอบปากคำเสร็จจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา หน่วงเหนี่ยวกักขัง เรียกค่าไถ่ เจตนาฆ่า ฆ่าโดยทรมาน ซุกซ่อนทำลายศพ ขณะนี้ควบคุมตัวไว้ ขยายผลดำเนินคดีแล้ว
พล.ต.ท.พีระพงศ์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตกับชายชาวจีนรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่อยู่ที่ประเทศจีน ผู้ตายเคยเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุก่อนหน้านี้แล้ว และมีความสัมพันธ์กันในระดับหนึ่ง รู้จักกันแต่ยังไม่ถึงขั้นชู้สาว ชายชาวจีนพยายามจะจีบผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 3 จะตั้งใจเดินทางตามมาเพื่อก่อเหตุหรือไม่ ต้องได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุถึงจะทราบ ส่วนวิธีการฆ่าต้องดูผลแพทย์ยืนยันว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร เบื้องต้นจากที่ดูบาดแผลเกิดจากการบาดของมีด ไม่น่าจะทำให้ตาย หนักสุดน่าจะเรื่องการคลุมหัวแล้วรัดคอ จากการตรวจสอบยังพบว่าชายชาวจีนทั้ง 3 คน เพิ่งเคยเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไปยังพ่อแม่ของ น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษาผู้เสียชีวิตแล้ว เพื่อให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะได้สอบปากคำถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับกลุ่มคนร้าย รวมทั้งรับศพลูกสาวกลับบ้านเกิดที่ประเทศจีน เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจจีนสามารถจับกุมนายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี นายเฉิน ไซกัง อายุ 23 ปี และนายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี 3 คนร้ายที่สังหาร น.ส.จินซ่าน ได้แล้ว หลังก่อเหตุได้บินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไปลงที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เพื่อเดินทางต่อไปยังภูมิลำเนาของทั้ง 3 คน แต่ถูกตำรวจจีนสกัดจับตัวได้ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ขณะนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ทีมสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เดินทางไปร่วมสอบปากคำเบื้องต้น ในระหว่างรอศาลจังหวัดนนทบุรีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จากนั้นจะประสานกับตำรวจจีน เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ค่ำวันเดียวกัน ศาลจังหวัดนนทบุรีได้อนุมัติหมายจับที่ 192,193,194/2566 ลงวันที่ 3 เม.ย.2566 ให้จับกุมนายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี นายเฉิน ไซกัง อายุ 23 ปี และนายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี 3 คนร้ายที่สังหาร น.ส.จิน ซ่าน อายุ 22 ปี นศ.ชาวจีน ในความผิดฐานร่วมกันเอาตัวบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวหรือถูกกักขังนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และร่วมกันลักทรัพย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐทีวีเพิ่มเติมว่า ตำรวจจีนได้จับกุมทั้ง 3 คนได้เมื่อวานนี้ที่เมืองอู่ฮั่น และจะดำเนินคดีตามความผิดตามมาตรา 8 เพราะทั้ง 3 คน เคยก่ออาชญากรรมในประเทศจีน จากการสอบปากคำกลุ่มคนร้ายเบื้องต้นให้การอ้างว่า สาเหตุการสังหารมาจากเรื่องชู้สาว เพราะ 1 ในกลุ่มคนร้ายเคยคบหากับผู้ตายตั้งแต่สมัยอยู่จีน วันเกิดเหตุคนร้ายได้ขอมีอะไรกับผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ยินยอมเลยฆ่าทิ้งแล้วอำพรางศพ ขณะนี้ตำรวจจีนเตรียมบินมาสอบสวนร่วมกับตำรวจไทย ขณะเดียวกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งพนักงานสอบสวนบินไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่ประเทศจีนด้วย