จากกรณีนายลา (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธเป็นของแข็งไม่มีคม ตีบริเวณโหนกแก้มขวา หูด้านซ้าย และศีรษะด้านหลัง เสียเลือดมากจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดที่กระท่อมนากลางไร่มันสำปะหลัง ห่างจากหมู่บ้านดงเค็ง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บรบือ สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทราบชื่อคือ นายทวิช หรือนายนุ อายุ 39 ปี ชาวบ้านหนองตูบ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุเกิดจากอาการเมาสุราอย่างหนัก
พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบรบือ กล่าวว่า ภายหลังจากได้รับแจ้งเหตุก็ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บรบือ ลงพื้นที่ออกติดตามหาข่าวในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน เก็บหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ
ผู้ต้องแจ้งว่าในคืนเกิดเหตุ (12 มี.ค.66) ดื่มสุราตั้งแต่ช่วงเย็น มีอาการเมาสุราอย่างหนัก ก่อนจะขับรถยนต์จากบ้านตนเอง ใช้เส้นทางการเกษตรจากบ้านหนองตูบไปบ้านดงเค็ง เพื่อที่จะไปดูหมอลำ แต่ด้วยความเมา ทำให้รถเสียหลักปีนเนินดิน ตัวรถติดคาอยู่ ทำให้ไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงลงจากรถไปหาคนมาช่วยเหลือ จากจุดที่รถจอด ไปยังกระท่อมนาห่างกันประมาณ 600-800 เมตร ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนที่พอเหล้าเข้าปากแล้ว ก็จะเปลี่ยนเป็นอีกคน
โดยกระท่อมนาหลังแรกที่เข้าไปไม่มีคนอยู่ ทำให้นายนุโมโหใช้ไม้ทุบทำลายอ่างน้ำ และดึงสายไฟ ทำลายทรัพย์สิน ก่อนจะเดินออกไปและถอดรองเท้าทิ้งไว้ ถัดไปที่กระท่อมนาอีกหลัง ก็ไม่มีคนอยู่ ด้วยความโมโหก็ทุบทำลายโอ่งน้ำใบใหญ่จนแตกเสียหาย ก่อนจะเดินลัดไร่มันสำปะหลังไปยังกระท่อมนาที่เกิดเหตุ
นายนุ อ้างว่า เมื่อมาถึงก็ตะโกนถามว่ามีใครอยู่มั้ย แต่กลับถูกนายลาด่ากลับมาว่า “แม่ง!! มาทำอะไรป่านนี้” จึงเกิดความโมโห คว้าท่อนไม้ยูคาลิปตัสที่วางอยู่ใกล้บันได ขึ้นไปกระหน่ำตีนายลาบนที่นอน โดยตลบมุ้งลงแล้วตีต่อย จนนายลาแน่นิ่งไป ก่อนจะหลบหนีกลับไปที่บ้านของตนเอง แล้วให้คนนำรถไถมาช่วยดึงรถที่ติดหล่มกลับบ้าน
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลก็ไปติดตามสอบถามจนนายนุรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพราะโมโหที่ถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ซึ่งภายหลังจากที่ทำแผนเสร็จเรียบร้อย นายนุยกมือขอโทษพร้อมก้มกราบนางอาน ภรรยาของนายลา ผู้เสียชีวิต โดยนางอานก็อโหสิกรรมให้ พร้อมพูดเพียงสั้นๆ ว่ามันสายไปแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวกลับไป
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, บุกรุกในเคหะสถานผู้อื่นในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป