ผบช.ก.เผยกรณี “สารวัตรซัว” จากการสอบพบปมเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์มีมูล โดยตั้งคณะทำงานสอบเส้นทางการเงินในทุกมิติว่ามีฟอกเงินหรือไม่ หากพบโยงใยพัวพันถึงใครดำเนินคดีทุกราย ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน
จากกรณี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัด กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉเป็นคนทำพนันออนไลน์รายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนกว่าหมื่นล้านบาท รวมทั้งยังมอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ตรวจสอบ
ต่อมา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 พล.ต.ต.ธงชัย เสรีวัฒนา ผู้บังคับการกองโยธาธิการ ได้มีคำสั่งกองโยธาธิการ ที่ 5/2566 ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ หลังถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน เรื่องละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ทางราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ และ มีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2566 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าภายหลัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มอบหมายให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและธุรกิจของเครือข่าย พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีต สว.ฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่มีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์รับพนันออนไลน์ ว่า ตัองขอขอบคุณพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ที่ให้ความไว้วางใจมอบหมายให้บช.ก.ตรวจสอบเรื่องนี้ สำหรับเรื่องที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบนั้น
เบื้องต้นพบว่ามีมูล ส่วนที่นายชูวิทย์ ให้ข้อมูลบริษัททั้ง 11 แห่งของสารวัตรซัว นั้น บช.ก.พอมีข้อมูลอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ จะต้องตรวจสอบในทุกมิติว่า เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่าทุกอย่างมีมูลเหตุ จึงได้สั่งตั้งคณะทำงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านในสังกัด เช่น บก.ป. บก.ปอศ. และ บก.ปอท. เร่งแกะรอยเส้นทางการเงินของสารวัตรซัว ย้อนหลังกลับไปให้ได้มากที่สุด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในทุกมิติ หากพบการกระทำผิดไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่มีส่วนพัวพันจะต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกราย
ในส่วนที่ บช.ก.ได้รับมอบหมายนั้นเป็นเรื่องของการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่ถูกกล่าวหา เป็นคนละส่วนกับเรื่องที่ ผบ.ตร.จะมีการตรวจสอบระดับนายพล แต่ถ้าผลการตรวจสอบในส่วนของ บช.ก.ที่ได้รับมอบหมายเกี่ยวเชื่อมโยงไปถึงนายพลนั้น จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบอย่างแน่นอน ทั้งนี้ยืนยันว่า บช.ก.จะทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีมวยล้มต้มคนดู อย่างไรก็ตาม บช.ก.นอกจากจะมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ก็ยินดีเปิดรับข้อมูลเบาะแสเรื่องนี้จากทุกฝ่าย ส่วนคณะทำงานจะเรียกสารวัตรซัวเข้าให้ปากคำด้วยหรือไม่นั้นต้องพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
