มอร์แกน สแตนลีย์ บริษัทที่ปรึกษาและบริหารการเงินและการลงทุนชื่อดังจากสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยส่วนตัวต่อหัวสูงที่สุดในโลก

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์ ประเมินว่าการใช้จ่ายรวมของชาวเกาหลีใต้สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 24% ในปี 2565 เป็น 16,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 552,000 ล้านบาท) หรือประมาณ 325 ดอลลาร์ (ราว 10,725 บาท) ต่อคน ซึ่งมากกว่าค่าใช้จ่าย 55 ดอลลาร์ และ 280 ดอลลาร์ต่อหัวของชาวจีนและชาวอเมริกันตามลำดับ

ขณะที่หลายแบรนด์หรูได้ระบุถึงยอดขายที่แข็งแกร่งในเกาหลีใต้ เช่น มงแคลร์ แฟชั่นหรูสัญชาติอิตาลี ที่กล่าวว่ารายได้ของบริษัทในเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด ส่วนบริษัท ริชมอนต์ กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์เครื่องประดับ “คาร์เทียร์” กล่าวว่าเกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ยอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564 และ 2563 ด้าน “พราดา” กล่าวว่า การล็อกดาวน์ของจีนส่งผลให้ผลประกอบการค้าปลีกในปี 2565 ลดลง 7% แต่ระบุว่าการลดลงนั้น ถูกทดแทนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในเกาหลีใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ อธิบายว่าความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยของผู้ซื้อชาวเกาหลีใต้นั้นได้รับแรงผลักดันจากทั้งกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นและความปรารถนาที่จะแสดงสถานะทางสังคมภายนอก เช่นเดียวกับการสำรวจของ “แมคคินซีย์” บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลก พบว่าการแสดงความมั่งคั่งยังเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับของสังคมมากกว่าในสังคมเกาหลี พบว่ามีเพียง 22% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวเกาหลีเท่านั้นที่คิดว่าการแสดงสินค้าฟุ่มเฟือยมีรสนิยมไม่ดี เทียบกับ 45% ของญี่ปุ่นและ 38% ของจีน