บุรีรัมย์-ชาวบ้านผวายกหมู่บ้านหลังจากเจ้าของไร่มันวัย 45 ปี ชาว อ.ปะคำ ถูกยิงเสียชีวิตคาไร่มันขณะนอนเฝ้าผลผลิต เชื่อเป็นฝีมือโจรที่แอบมาขโมยขุดมันสำปะหลังซึ่งมีราคาแพง เจอเจ้าของไปนอนเฝ้าเลยยิงทิ้ง

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 66 กรณีมีชาวบ้านทรายทอง หมู่ 17 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ พบศพ นายมานพ หรือโต่ย พั่วชู อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 410/2 ม.8 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ถูกยิงถึง 4 นัด เสียชีวิตกลางไร่มันสำปะหลังของตัวเอง ที่บ้านทรายทอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะมีการคาดเดาว่าผู้เสียชีวิตอาจจะไปเผชิญหน้ากับกลุ่มคนร้ายที่กำลังมาขโมยขุดเอามันสำปะหลัง ซึ่งอาจจะรู้จัก หรือจำหน้ากันได้จึงฆ่าเพื่อปิดปาก และเหตุน่าจะเกิดในช่วงเวลากลางคืน ก่อนรุ่งเช้าชาวบ้านจะมาพบศพ

สาเหตุที่ชาวบ้านเกิดความหวาดผวา และเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มโจรลักมันสำปะหลัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้แจ้งกับผู้ใหญ่บ้านและบอกกับครอบครัวว่าจะไปแอบซุ่มดูคนร้ายที่แอบมาขโมยขุดเอามันสำปะหลังที่มีคนแอบขุดเอาไปแล้วหลายครั้ง หลังจากราคารับซื้อหัวมันสำปะหลังในพื้นที่พุ่งสูงถึง กก.ละ 3 บาท หรือตันละ 3,000 บาท

นางอรุณ ทองแดง อายุ 53 ปี เจ้าของร้านค้าในหมู่บ้านทรายทอง เล่าว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนต่างหมู่บ้าน แต่มีไร่มันอยู่ที่นี่ ได้มาซื้อของพร้อมฝากบอกว่า “ถ้าเห็นคนขโมยมันให้แจ้งหน่อย” แต่ตนไม่เคยเห็น เพราะอยู่ที่ร้านค้า ตนไม่ได้ออกไปทำไร่มัน เท่าที่ทราบจากชาวบ้านว่ามันสำปะหลังของผู้ตายงาม ทำให้กลายเป็นแปลงที่คนร้ายเลือกขโมยก่อนแปลงอื่น

ด้านนายสมภาส อุไรรัตน์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 432 ม.17 ต.โคกมะม่วง บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าชาวบ้านต่างหวาดผวา เพราะเกรงว่าจะไปเผชิญกับคนร้ายในลักษณะนี้อีกหรือไม่ เพราะตามสัญชาตญาณเจ้าของไร่ต้องปกป้องทรัพย์สินของตัวเองก่อน

นายสมภาส ยังเล่าด้วยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านที่ปลูกมันสำปะหลังมักจะหวาดผวาช้างป่าจากป่าดงใหญ่ที่มักจะลงมาในไร่ของเกษตรกรเป็นประจำ แต่นอนนี้เพิ่มเป็น 2 เท่า นอกจากจะผวาช้างป่าแล้วยังต้องระวังโจรมันสำปะหลังอีก จึงอยากจะให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

สำหรับทางด้านคดี ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.ปะคำ กำลังประชุมเร่งติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดี ทั้งนี้จุดที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก.