สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการจีนยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 5 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตรวมนับแต่เริ่มการระบาด 5,242 ราย หลังจากเพิ่งรายงานผู้เสียชีวิตในกรุงปักกิ่ง 2 รายเมื่อวันก่อน เป็นการเสียชีวิตจากโควิดครั้งแรกนับแต่ต้นเดือน ธ.ค. โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีอาการ 2,656 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยที่หายดีออกจากโรงพยาบาลทั้งหมด 2,017 ราย ท่ามกลางรายงานว่าเมืองต่างๆ ทั่วจีน ต่างรีบเร่งติดตั้งเตียงและสร้างคลินิกตรวจอาการไข้ ยิ่งเพิ่มความกังวลของนานาชาติถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ หลังทางการจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์

นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความกังวลถึงการระบาดอย่างหนักในจีนอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ของไวรัส ซึ่งนับเป็นภัยคุกคามสหรัฐฯ หวังว่าจีนจะสามารถจัดการกับการระบาดในปัจจุบันได้

นายซู่ เหวินปอ เจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าวว่า การกลายพันธุ์ครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นมีความสามารถในการหลบหนีภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งขึ้นและแพร่เชื้อได้มากขึ้น แต่ความอันตรายถึงชีวิตน้อยมาก ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเมื่อ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุอัตราการเสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกในช่วง 3 ปี ของการระบาดอยู่ที่ 1.03% ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของจีนอยู่ที่ 0.31% และของสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 1.09

นายจง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจของจีนยัง กล่าวว่า อัตราการตายจากเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนเกือบเท่าๆกับไข้หวัดใหญ่ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้เต็มที่ภายใน 1 สัปดาห์เท่านั้น

นางลิบบี ลี รมช.สาธารณสุขฮ่องกงแถลงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ประชาชนไม่ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบเพื่อเข้าใช้บริการในบาร์และร้าน อาหารอีกต่อไป โรงภาพยนตร์และสถานที่จัดการแสดงต่างๆ เปิดรับผู้ชมได้เต็มความจุของพื้นที่จากเดิม 85% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่รัฐบาลเลิกใช้แอปพลิเคชันติดตามความเคลื่อนไหว หลังจากลดระยะเวลากักตัวผู้ป่วยโควิด-19 และผู้สัมผัสใกล้ชิดจาก 7 วันเหลือ 5 วัน เมื่อต้นเดือน อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ยกเว้นออกกำลังกาย และต้องมีเอกสารแสดงการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสถานที่ต่างๆ

นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ให้คำมั่นว่ากำลังดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ขณะที่ลียังมีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่ 21 ธ.ค. เพื่อรายงานเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจของฮ่องกง รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 คาดว่าจะมีการหารือถึงประเด็นการเปิดพรมแดนฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มรูปแบบโดยปลอดการกักตัว.