นนทบุรี-ตำรวจไซเบอร์ แถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ผลิตปืนเถื่อน ขายออนไลน์ให้นักเรียนอาชีวะเอาไปยิงกัน เตรียมขยายผลไปยังลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าต่อไป

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ สีละสิริ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว รอง ผบก. สอท.2 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 และ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.1 บก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ บก.สอท.2 แถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายพิเชษฐ์ เอี่ยมรุ่งเรือง อายุ 45 ปี จับกุมที่บ้านพักย่านลาดกระบัง นายปิยทัศน์ รุ่งไพโรจน์ อายุ 31 ปี จับกุมที่บ้านพักย่าน ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสมภพ เสิงสูงเนิน 18 ปี จับกุมที่บ้านพักใน จ.บุรีรัมย์ และนายภัคพล บำรุงเขต อายุ 22 ปี จับกุมได้ที่บ้านพักในจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลาง อาวุธปืน ขนาด .45 ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) 4 กระบอก อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนหลายขนาดกว่า 6 พันนัด แท่นกลึงใช้ผลิตอาวุธปืน สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม กล่องพัสดุ และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง

สืบเนื่องจากได้รับการประสานความร่วมมือจากผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัยสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ในการแก้ไขปัญหาความรุนแรง การรวมกลุ่มก่อเหตุภายนอกสถานศึกษาของนักเรียนอาชีวะ หลังพบมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาอาชีวศึกษาบางกลุ่ม ใช้ความรุนแรงโดยการนำอาวุธปืนที่ไม่ถูกกฎหมายมาใช้ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ทางบช.สอท. จึงปราบปรามและสืบทราบว่ามีการซื้อขายปืนเถื่อนผ่านระบบออนไลน์ ตำรวจจึงให้สายลับสั่งซื้ออาวุธปืนไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนกับกลุ่มคนร้ายหลายครั้ง ก่อนจะได้รับของตามที่สั่งซื้อ จึงตรวจสอบที่อยู่ตามที่มีการส่ง พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากนั้นจึงเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านลาดกระบัง จับกุมนายพิเชษฐ์ พบเครื่องกลึงและเครื่องเจาะเหล็กรวมถึงอุปกรณ์ที่ไว้ใช้สำหรับผลิตอาวุธปืนปากกา โดยมีการใช้กระสุนปืนขนาดต่างๆ ในการวัดเทียบลำกล้อง และมีการสั่งซื้อเหล็กเส้นจากร้านวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องมาร์คเหล็กนำมาดัดแปลงเป็นปืนปากกา โดยการใส่สปริงและเจาะลำกล้องเพื่อใส่ไกปืน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งให้พฐ.เพื่อตรวจและยืนยันว่าสามารถใช้เป็นอาวุธปืนและทำอันตรายถึงชีวิตได้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลถึงแหล่งที่มาของเครื่องกระสุน จนสามารถจับกุมนายปิยทัศน์ ได้ที่บ้านพักในจังหวัดนนทบุรี พร้อมกระสุนปืน กว่า 6,000 นัด และอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ โดยจุดนี้จะเป็นสถานที่ในการแพ็กสินค้าส่งให้กับลูกค้าผ่านระบบขนส่งเอกชน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลจนสามารถจับกุมนายสมภพและนายภัคพล ผู้ร่วมขบวนการในการจำหน่ายปืนเถื่อนออนไลน์ ได้ที่บ้านใน จ.อยุธยา และ จ.บุรีรัมย์

ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากชุดปฏิบัติการของ บก.สอท.2 ได้ติดตามสืบสวนกรณีนี้มาประมาณ 2 เดือน ประกอบกับตอนนี้อยู่ในช่วงระดมกวาดล้างในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางตำรวจไซเบอร์ จึงเร่งกวาดล้างอาชญากรรมต่างๆ ในโลกออนไลน์ จึงสามารถจับกุมขบวนการขายปืนเถื่อนออนไลน์ โดยจากนี้จะต้องมีการขยายผลไปยังลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าต่อไป

ด้าน นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัยสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานักเรียนอาชีวศึกษาตกเป็นเหยื่อของการซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์ และนำมาใช้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทางตำรวจและเครือข่ายอาชีวศึกษาจึงได้ร่วมประชุมหาทางป้องกันและปราบปราม ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ลดการก่อเหตุรุนแรงในกลุ่มนร.อาชีวะและกลุ่มวัยรุ่น เพิ่มความปลอดภัยในสังคมมากขึ้น.