สรุปไทม์ไลน์ของอุบัติเหตุเรือหลวงสุโขทัยเครื่องยนต์ขัดข้องน้ำทะลักเข้าเรือ ทำให้เรือจมสู่ก้นอ่าวไทยกลางดึก 18 ธ.ค. นอกชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่การค้นหาช่วยลูกเรือทั้ง 110 นายยังเดินหน้า

จากกรณีเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ศูนย์วิทยุ 191 สภ.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเรือหลวงสุโขทัยที่เดินทางจากฐานทับเรือสัตหีบเพื่อปฏิบัติภารกิจในอ่าวไทย เมื่อเข้าเขตใน อ.บางสะพาน เจอคลื่นลมแรงทำให้มีน้ำจำนวนมากทะลักเข้ามาในเรือบริเวณกราบขวาจนกระทั่งเรือเอียง ห้องวิทยุสื่อสารจมน้ำ วิทยุสื่อสารใช้การไม่ได้ ก่อนที่เรือกำลังจะอับปางลง

นายสุมิตร เผือกผ่อง หัวหน้าแผนกเรือ บ.ท่าเรือประจวบฯ ได้เปิดเผยไทม์ไลน์กับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุดังนี้

– เมื่อเวลา 15.30 น. ได้รับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.กระบุรี กับ ร.ล.สุโขทัย จะมีการไปภารกิจที่ จ.ชุมพร

– หลังจากนั้นไม่นานทางท่าเรือฯ ได้รับการประสานจาก ร.ล.กระบุรี ว่าจะขอเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลมีความแรง คลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร

– 18.00 น. ได้รับแจ้งทางวิทยุจากเรือหลวงสุโขทัยว่าเครื่องยนต์มีปัญหา 1 เครื่อง เหลือใช้งานได้ 1 เครื่อง

(ตามการแถลงของกองทัพเรือระบุสาเหตุว่า เรือหลวงสุโขทัย กำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณพิกัดแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสบเหตุเรือมีอาการเอียง เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา)

– 19.00 น. ได้รับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.สุโขทัย ว่าเครื่องยนต์ทั้งหมดมีปัญหา ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และพบปัญหาการเอียงของตัวเรือประมาณ 60-70 องศา และเรือหลวงกระบุรีที่กำลังมุ่งหน้าเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ จึงได้หันหัวเรือกลับออกไปให้การช่วยเหลือ

– 21.20 น. ทาง บ.ท่าเรือประจวบฯ จัดส่งเรือทัก (Tug) หรือเรือลากจูง จำนวน 2 ลำ คือ เรือประจวบ 4 และเรือประจวบ 5 ออกจากท่าเรือประจวบฯ มุ่งหน้าจุดเกิดเหตุ

– 22.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาถึง ท่าเรือประจวบฯ เรียกประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย กว่า 20 ทีม จากทุกอำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางถึงท่าเรือประจวบฯ สแตนด์บายเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลืออยู่ที่บริเวณท่าเรือ

– 23.30 น. ได้รับแจ้งว่าเรือหลวงสุโขทัยจมลงในอ่าวไทย ในเขตพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 19 ไมล์ทะเล พร้อมกำลังพลและลูกเรือประมาณ 110 นาย

– 24.00 น. เรือทัก (เรือลากจูง) 2 ลำ ที่ท่าเรือประจวบฯ ส่งไปช่วยเหลือเดินทางถึงจุดเกิดเหตุและร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือร่วมกับเรือหลวงกระบุรี และเรือสินค้าศรีไชยา และเรือเดินทะเลระหว่างประเทศชื่อเรือ Energy ที่เดินทางผ่านบริเวณดังกล่าว.

– 04.00 น.เบื้องต้นนี้ได้มีการลำเลียงผู้ประสพภัยและผู้บาดเจ็บ ขึ้นฝั่งได้จำนวนทั้งสื้น 73 นาย บาดเจ็บหนัก 5 นาย โดยใช้เรือหลวงกระบุรี เรือสินค้าศรีไชยา และเรือทักประจวบฯ 5 ทยอยลำเลียงขึ้นฝั่งที่ท่าเรือบางสะพาน และ ยังคงมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 33 นาย.