รัสเซียโหมยกระดับความรุนแรงปูพรมโจมตีทั่วประเทศยูเครน รวมทั้งกรุงเคียฟ และคาร์คิฟ พุ่งเป้าโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานและโรงงานไฟฟ้าหวังใช้ความหนาวเป็นอาวุธ ‘แช่แข็ง’ ชาวยูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 16 ธ.ค. 2565 ว่ากองทหารรัสเซียยังคงระดมยิงขีปนาวุธ มากถึงวันละประมาณ 60 ลูก โจมตีเป้าหมายทั่วประเทศยูเครน โดยพุ่งเป้าถล่มโรงไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานในกรุงเคียฟ และหลายเมือง รวมทั้ง เมือง หลักทางภาคใต้ และเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน
อิฮอร์ เทเรกฮอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศยูเครน มีประชากรกว่า 1 ล้านคน กล่าวว่า การโจมตีของรัสเซียถล่มเมืองคาร์คิฟ สร้างความเสียหายอย่างหนัก และส่วนใหญ่ ส่งผลกระทบต่อระบบการส่งกระแสไฟฟ้า
“ระบบโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายมหาศาล เบื้องต้นคือระบบพลังงานไฟฟ้า ผมขอให้พวกท่านจงอดทนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ ผมรู้ดีว่าบ้านของพวกท่านไม่มีไฟฟ้า ฮีตเตอร์ หรือเครื่องทำความร้อนใช้งานไม่ได้ และไม่มีน้ำประปาใช้”นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟแจ้งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม
ทั้งนี้ รัสเซียยังคงโหมโจมตีโรงไฟฟ้าทั่วยูเครนอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะใช้มิสไซล์ โจมตีแล้ว ยังได้ใช้ ‘โดรนกามิกาเซ่’ ในการโจมตีเป้าหมายในยูเครน โดยเมื่อ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา รัสเซียได้ส่งโดรนกามิกาเซ่ สร้างโดยอิหร่าน มาโจมตีเมืองโอเดสซา เมืองท่าริมฝั่งทะเลดำอีกครั้ง ทำให้ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด หิมะตก ซึ่งการกระทำดังกล่าวหวังใช้ความหนาวเป็นอาวุธ”แช่แข็ง”ประชาชนชาวยูเครน
